ไทยยื่นสัตยาบัน RCEP แล้วเริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.65 คุยตีตลาด จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเพิ่ม

แฟ้มภาพ

ไทยยื่นให้สัตยาบัน RCEP แล้ว มั่นใจมีผลบังคับใช้ได้ตามเป้า 1 ม.ค.65 หลังสมาชิกอาเซียน และนอกอาเซียนยื่นเกือบครบแล้ว เผยไทยได้ประโยชน์ หลังเกิดตลาดการค้า การลงทุนใหญ่ที่สุดในโลก ชี้มีการลดภาษีรวม 39,366 รายการ ลด 0% ทันที 29,891 รายการ สินค้าไทยมีโอกาสเจาะจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้เพิ่ม

1 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับทราบผลการยื่นให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ของไทย เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะยื่นช่วงเดือนพ.ย.2564 ทำให้มั่นใจว่าความตกลงจะมีผลบังคับได้ในวันที่ 1 ม.ค.2565 ตามกำหนดเดิมสมาชิกได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้

ทั้งนี้ การให้สัตยาบัน RCEP เพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้ กำหนดให้สมาชิกอาเซียน 6 ประเทศจาก 10 ประเทศ ยื่นให้สัตยาบัน ซึ่งปัจจุบันมีอาเซียนยื่นแล้ว คือ สิงคโปร์ บรูไน สปป.ลาว และกัมพูชา โดยมีไทยเป็นประเทศล่าสุด จึงไม่น่ากังวลว่าจะไม่ครบตามเงื่อนไข ส่วนประเทศนอกอาเซียน ญี่ปุ่น จีน ยื่นแล้ว ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ กำลังจะยื่น  

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจาก RCEP เมื่อความตกลงมีผลบังคับใช้ ในด้านการค้า ประเทศคู่เจรจาจะลดภาษีให้ไทยเป็น 0% รวมทั้งหมด 39,366 รายการ (ออสเตรเลีย 5,689 รายการ จีน 7,491 รายการ ญี่ปุ่น 8,216 รายการ เกาหลีใต้ 11,104 รายการ และนิวซีแลนด์ 6,866 รายการ) โดยจะยกเลิกภาษีเป็น 0% ทันทีที่ความตกลงมีผลใช้บังคับจำนวน 29,891 รายการ หรือ 75.9% ของรายการสินค้าที่จะยกเลิกภาษีทั้งหมด และสินค้าที่ประเทศคู่เจรจาจะทยอยลดภาษีภายใน 10-20 ปี จำนวน 9,475 รายการ  

สำหรับสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดเพิ่มเติม มีทั้งหมด 653 รายการ จากจีน 33 รายการ ญี่ปุ่น 207 รายการ และเกาหลีใต้ 413 รายการ โดยสินค้าที่เกาหลีใต้เปิดตลาดเพิ่ม เช่น ผักผลไม้แปรรูปและไม่แปรรูป น้ำมันที่ได้จากพืช ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้งมันสำปะหลัง สินค้าประมง พลาสติก เครื่องแก้ว ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ ด้ายทำด้วยยางวัลแคไนซ์ รถจักรยาน เครื่องยนต์เรือและส่วนประกอบ กระเบื้อง ซีเมนต์ เป็นต้น ญี่ปุ่น เช่น สินค้าประมง ผัก ผลไม้ปรุงแต่ง แป้งสาคู น้ำมันถั่วเหลือง กาแฟคั่ว น้ำผลไม้ เป็นต้น และจีน เช่น พริกไทย สัปปะรดแปรรูป น้ำมะพร้าว ตัวรับสัญญาณโทรทัศน์ สไตรีน ชิ้นส่วนยานยนต์ กระดาษ เป็นต้น  

นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกอบการเลือกใช้แหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายมากขึ้น สามารถนำวัตถุดิบที่ได้ถิ่นกำเนิดภายใต้ RCEP มาสะสมถิ่นกำเนิดสินค้าต่อได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการผ่านถิ่นกำเนิดสินค้า และส่งผลให้การค้า การลงทุนในภูมิภาคขยายตัวเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน จะมีโอกาสด้านการค้าบริการและการลงทุน เพราะกฎระเบียบ RCEP ได้ลดหรือยกเลิกกฎระเบียบและมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของภาคบริการ หรือการลงทุนที่ไม่ใช่ภาคบริการ เช่น มาตรการ ขั้นตอนในการขอรับใบอนุญาต และการตรวจสอบคุณวุฒิ คุณสมบัติของผู้ให้บริการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนเกินจำเป็น จะช่วยส่งเสริมการออกกฎระเบียบและมาตรการด้านการลงทุนมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้นและไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนจนเกินจำเป็น นักลงทุนไทยสามารถจัดตั้งกิจการและลงทุนในประเทศของสมาชิกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ ความตกลง RCEP ยังช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในประเทศภาคี RCEP ในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น การก่อสร้าง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และบันเทิง ประเภทเทคนิคตัดต่อภาพและเสียง การผลิตแอนิเมชัน และค้าปลีก เป็นต้น รวมทั้งช่วยในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาไทย โดยเฉพาะการลงทุนในสาขาที่ต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยต่อยอดอุตสาหกรรม S curve ตามนโยบายรัฐบาล เช่น การวิจัยและพัฒนา สิ่งแวดล้อม ICT การศึกษา การซ่อมบำรุงรักษาชิ้นส่วนอากาศยาน เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลปลื้มยอดส่งออกสินค้าเกษตรไปยังสมาชิก RCEP ต่อต่อเนื่อง

รัฐบาลผลักดันการส่งออกไทยกับประเทศสมาชิก RCEP สำเร็จการค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร-เกษตรแปรรูป พร้อมขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์

'บิ๊กตู่' ยิ้มแก้มปริคนจีนยังนิยมบริโภคทุเรียนไทย 5 เดือนส่งออกกว่า 6 หมื่นล้าน!

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีทุเรียนไทยยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องในจีน ส่งออก 5 เดือนแรกปี 2566 มูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท เชื่อมั่นการรักษาคุณภาพ เส้นทางล่าสุดส่งออกทุเรียนไปจีนใช้เวลาเพียง 4 วัน

รัฐบาลเร่งผลักดันใช้ RCEP หลังมีผลบังคับใช้ใน 15 ชาติสมาชิก

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ผลักดันการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง RCEP เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด และศักยภาพทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทย

'บิ๊กตู่' ปลื้ม RCEP ครบ 1 ปีการค้าไทยขยายตัว 7.11%

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้ม RCEP บังคับใช้ครบ 1 ปี ช่วยการค้าไทยกับประเทศสมาชิก ขยายตัวกว่า 7% เพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกอบการไทย ส่งออก - นำเข้าสินค้าเพิ่มเติมจาก FTA เดิม

กรมการค้าต่างประเทศกางแผนปี 66 ผลักดันส่งออกเข้มข้น

กรมการค้าต่างประเทศกางแผนทำงานปี 66 เดินหน้าผลักดันสินค้าเกษตรสำคัญ “ข้าว-มันสำปะหลัง” เตรียมลุยหาตลาด เพื่อเพิ่มรายได้ พร้อมคุมเข้มมาตรฐานส่งออก-นำเข้า เร่งรัดเปิดด่าน จัดมหกรรมการค้า เพิ่มยอดการค้าชายแดน นำดิจิทัลใช้ในงานบริการ ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย และเร่งรัดผู้ประกอบการใช้ประโยชน์ FTA-RCEP

รัฐเดินหน้าสร้างความร่วมมือการค้ากับมิตรประเทศและคู่เจรจาเพิ่มเติม ดันส่งออกสินค้าเกษตร

โฆษกรัฐบาล เผย รัฐเดินหน้าสร้างความร่วมมือทางการค้ากับมิตรประเทศและคู่เจรจาเพิ่มเติม พร้อมผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยมากขึ้น