28 พ.ค.2565 - นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
ลเลือกตั้งสนาม กทม. แสงสว่างประชาธิปไตยส.ว.ต้องฟังเสียงประชาชน
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะคะแนนที่คนกรุงเทให้กับ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 1.3 ล้าน ซึ่งมากที่สุดเท่าที่ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในอดีตเคยได้รับ ผมถือว่า เป็นแสงแห่งความหวังในการกอบกู้ซากประชาธิปไตยที่ถูกทำลายมาตลอดระยะเวลา 8 ปี
จะเห็นว่า หลังทราบผลเลือกตั้ง ประชาชนให้การยอมรับและสนับสนุนการทำงานของคุณชัชชาติอย่างเต็มที่ นั่นเพราะคุณชัชชาติคือ คนที่เข้ามาโดยถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย
คุณชัชชาติไม่มีอำนาจรัฐหรือกติกาใดมาเอื้อประโยชน์ให้ คะแนนที่ท่วมท้นเกิดจากความต้องการของประชาชนใน กทม. อย่างแท้จริง
ผมหวังจะเห็นว่า การแสดงพลังผ่านระบอบประชาธิปไตยแบบนี้อีกครั้งในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า เพื่อให้ประชาชนได้เลือกคนที่เขาต้องการและไว้วางใจมาบริหารประเทศจริงๆ โดยปราศจากกลไกและกติกาใดๆ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาขัดขวาง
เพราะผมเชื่อว่า ไม่ว่าใครได้เข้ามาบริหารประเทศหากเป็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ในกติกาที่เป็นธรรม จะได้รับการยอมรับและสนับสนุนการทำงานเหมือนที่คุณชัชชาติได้รับ
แต่ผมไม่แน่ใจว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าคนที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนแบบเดียวกับคุณชัชชาติ จะได้เข้ามาบริหารประเทศหรือไม่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีกติกาหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตยอยู่ไม่น้อย
โดยเฉพาะอำนาจของ ส.ว. ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญมาตรา272 ที่ยังสามารถร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ตรงนี้น่ากังวลว่า หากมีใครพยายามจะรักษาอำนาจตัวเองใช้กลไกนี้สกัดกั้น เราอาจไม่ได้ผู้นำที่มาจากความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงอีก
ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาที่มีทั้งหมด 750 เสียง (ส.ส.500 คน ส.ว.250 คน) โดยต้องได้ 376 เสียง หากการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ได้ถึง 376 เสียง นั่นหมายความว่า เสียง ส.ว.จะเป็นตัวชี้ขาดทันที
มันน่าสนใจมากว่าหาก ส.ว.ลงมติแตกต่างกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในการเลือกตั้ง กระบวนการฟื้นฟูประชาธิปไตยที่เราคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นหลังเห็นแสงสว่างแห่งความหวังในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก.ที่ผ่านมาจะสะดุดหยุดลงอีกครั้ง
ผมขอยืนยันตรงนี้ว่า ไม่ได้มีอคติกับการมี ส.ว. และสนับสนุนให้มี ส.ว.ในกระบวนการนิติบัญญัติเพื่อถ่วงอำนาจตามครรลองที่ควรจะเป็น แต่การให้อำนาจ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่ผมไม่เห็นด้วยมาตลอด
แต่ในเมื่อบทเฉพาะกาลกำหนดเอาไว้แบบนั้น และที่ผ่านมาไม่ได้มีการแก้ไขอำนาจ ส.ว.ตรงนี้ เพราะ ส.ว. และผู้มีอำนาจไม่ยินยอม ผมจึงได้แต่หวังว่า เมื่อถึงการเลือกตั้งใหญ่อีกไม่ถึง10เดือนข้างหน้า ส.ว.จะเคารพเสียงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง ไม่ทำอะไรที่เป็นตัวฉุดรั้งกระบวนการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ เช่นฝ่ายไหนชนะและได้เสียงข้างหน้า ก็ควรยอมรับมติดังกล่าวนั้น
เพราะเราเห็นแล้วว่า กระบวนการใดๆ ที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม หรือเป็นการยัดเยียดให้กับประชาชน สุดท้ายจะไม่ได้รับการยอมรับ และนำพาประเทศไปสู่วิกฤตการณ์ต่างๆ อย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายปีมานี้
คุณอาจรักษาอำนาจได้ แต่คุณจะไม่มีวันได้ใจประชาชน และที่สุดคุณจะไม่อาจต้านทานพลังความต้องการของประชาชนได้ เหมือนกับที่เราเห็นในสนาม กทม.
#ส.ว.ต้องฟังเสียงชาวบ้าน #หนุนแก้มาตรา 272
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชาญ' ชนะแต่แพ้! เตือนเจ้าหน้าที่รัฐ ระวัง ม.157
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชนะแต่แพ้
กกต. ต้องทำ 2 เรื่องใหญ่ ก่อนประกาศรับรอง 200 สว.
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ก่อนรับรอง 200 สว. กกต. ต้องทำ 2 ข้อก่อน
เตือน 'ทักษิณ' มีบทบาทการเมืองมากเกิน จะกระทบภาวะผู้นำของ 'เศรษฐา'
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ยอมรับว่า สาเหตุที่ไปถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามความผิด ม.157 กรณีเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศั
เพื่อไทยอัด 'ปิยบุตร' เกินไปแล้ว ย้อนถามถ้า 'ชาญ' แพ้จะมีใครมาไล่บี้หรือไม่
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้วและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อว
ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 30: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475)
ผู้เขียนขอหยิบยกรายงานจากสถานทูตอื่นๆที่มีต่อเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองต่อจากตอนที่แล้ว โดยผู้เขียนได้คัดลอกมาจากหนังสือ
'ปิยบุตร' ดักคอพรรคจ้องดูด สส.งูเห่า เอาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเสถียรภาพรัฐบาล
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สัดส่วนพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมนัดแรก