นายกฯ ย้ำที่ประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก กุญแจสำคัญ 'ความเข้าใจ-ร่วมมือกัน-เป็นหนึ่งเดียว'

นายกฯ ชูที่ประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก “พลิกโฉมประเทศไทย” ย้ำจุดอันตรายของมนุษยชาติคือความไม่ลงรอยของมนุษย์เอง

28 ต.ค.2564 - เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เวลา 18.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้เข้าร่วม ได้แก่ ผู้นำและผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี นิวซีแลนด์ รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ มีผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมด้วย

โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญของการประชุมว่า ที่ประชุมฯ ผู้นำจากประเทศต่างๆ มุ่งเน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาโรคระบาดโควิด – 19 ที่เป็นความท้าทายของโลกที่จะต้องร่วมกันรับมือกับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต สังคม เศรษฐกิจ ในวงกว้าง การปรับตัวภายหลังโควิด – 19 ที่เศรษฐกิจจะต้องปรับตัวจากผลกระทบดังกล่าว ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนไปโลกจะต้องร่วมกันฟื้นฟูแก้ปัญหาเพื่อความสงบสุขอย่างถาวร

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่ทุกประเทศกำลังเผชิญกับประเด็นท้าทายต่าง ๆ ร่วมกัน โดยกุญแจสำคัญที่จะไขประตูสู่ทางออก คือ การเห็นอกเห็นใจ เข้าใจกัน และร่วมแรงร่วมใจกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่ง EAS เป็นโอกาสสำคัญ ในฐานะเวทีหารือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างผู้นำ ที่ไทยเชื่อว่าจะมุ่งสานพลังจากศักยภาพ จุดแข็ง และความเป็นเลิศที่หลากหลาย เพื่อจัดการความท้าทาย อย่างไรก็ตาม EAS จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์มุ่งเน้นความร่วมมือเพื่อสร้างชัยชนะที่ถาวร บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งวางรากฐานและกำหนดทิศทางไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนแบบองค์รวม

จากความท้าทาย โควิด-19 ย้ำเตือนว่า ความมั่นคงด้านสาธารณสุข คือเป้าหมายพื้นฐานที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับคุณภาพชีวิตของประชาชน ดังนั้น การเข้าถึงและการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียมและรวดเร็ว การวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส ตลอดจนการยกระดับขีดความสามารถด้านการแพทย์และสาธารณสุข จึงเป็นประเด็นความร่วมมือที่ควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ขณะเดียวกัน สุขภาพจิตของประชาชนทุกกลุ่มควรได้รับความเอาใจใส่ดูแลอย่างทั่วถึง ซึ่งในวันนี้ได้มีการรับรองแถลงการณ์ผู้นำ EAS ว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขภาพจิต ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

เป้าหมายสำคัญลำดับต้นอีกประการหนึ่ง คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยไทยพร้อมร่วมมือกับสมาชิก EAS ในการดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือที่ครอบคลุมของอาเซียน และมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและเสริมสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการฟื้นฟูการเดินทางของประชาชนและการท่องเที่ยว ตามแนวทางภายใต้แถลงการณ์ผู้นำ EAS ว่าด้วยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ซึ่งไทยร่วมอุปถัมภ์

นอกจากนี้ ไทยยินดีร่วมมือกับทุกประเทศในการดำเนินการตามแถลงการณ์ EAS ว่าด้วยการฟื้นฟูที่ยั่งยืน โดยใช้ประโยชน์จากโมเดลเศรษฐกิจ BCGตลอดจนเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างประเทศในประเด็นท้าทายระดับโลก อาทิ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบริหารจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ

นายธนกร กล่าวว่า ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคเป็นพื้นฐานสำคัญของความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ซึ่ง EAS เป็นกลไกหลักที่เปิดโอกาสให้สามารถหารือกันได้อย่างเปิดเผยและสร้างสรรค์ รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยยึดมั่นความเป็นแกนกลางของอาเซียน ในสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ ไทยให้ความสำคัญต่อการแก้ไขสถานการณ์ในทะเลจีนใต้โดยสันติวิธี และพร้อมสานต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ในการผลักดันความร่วมมือบนหลักการ 3M คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ ไทยส่งเสริมสันติภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี โดยหวังจะเห็นความคืบหน้าของการเจรจาและความร่วมมือที่นำไปสู่คาบสมุทรเกาหลีที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำจุดยืนตามพันธกรณีที่มีต่อข้อตกลงระดับภูมิภาค และส่งเสริมให้ฝ่ายต่าง ๆ เคารพและปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับประเด็นนิวเคลียร์ รวมถึง Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons (NPT) ทั้งนี้ ไทยไม่ประสงค์จะเห็นความขัดแย้งและการเผชิญหน้าระหว่างมิตรประเทศ และเชื่อมั่นว่า ทุกประเทศในโลกต่างมีเป้าหมายพื้นฐานร่วมกันในการสร้างสรรค์ให้ประเทศและโลกนี้มีความสงบและสันติ และให้ประชาชนทุกคนมีความสุขและมีสุนทรียภาพในชีวิตมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!

'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน