“อาคม” ชู 6 แนวทางหนุนธุรกิจประกันภัยปรับตัวยกระดับรับสถานการณ์หลังโควิด-19 ดึงเทคโนโลยีช่วยลดต้นทุน เข็นผุดประกันวินาศภัยโครงสร้างพื้นฐาน หวังเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปมยากจน-เหลื่อมล้ำ ดันไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง
26 ต.ค. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวปาฐกถาในงาน Thailand InsurTech Fair 2021 ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในหลายมิติต่อภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมประกันภัยก็ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทในการบริหารความเสี่ยงด้านสังคม ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และเพียงพอต่อความต้องการของคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งได้มีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
“จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ซึ่งพบว่าช่วงที่ผ่านมามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับผู้ประกอบการ” นายอาคม กล่าว
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมประกันภัยถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินภายในประเทศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการระดมเงินทุนจากผู้มีเงินออม เพื่อสร้างหลักประกันในชีวิตในระยะยาว รวมถึงเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน และช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานราก ในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทั้งจากปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง โดยมองว่าหลังจากนี้อุตสาหกรรมประกันภัยต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) ภายใต้ 6 แนวทาง ได้แก่
1. อุตสาหกรรมประกันภัยต้องมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อความสะดวก สบายของผู้รับบริการ ช่วยลดภาระการเดินทาง และลดภาระในเรื่องต้นทุนต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการพัฒนาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการทำธุรกรรมกับภาครัฐ อาทิ การจ่ายค่าธรรมเนียม การขอใบอนุญาต การเสียภาษี สามารถดำเนินการผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้ว
2. อุตสาหกรรมประกันภัยต้องขยายบทบาทการรับประกันภัยที่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากภัยธรรมชาติ และเรื่องที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งในภาคการเงินและการคลังมีการพูดถึงเรื่องนี้ในระดับโลกและระดับภูมิภาค โดยการระดมทุนผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ มุ่งไปที่การรักษาสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เปลี่ยนการใช้รถยนต์จากระบบน้ำมันไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งธุรกิจประกันภัยต้องมองเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
3. อุตสาหกรรมประกันภัยต้องตอบสนองเรื่องหลักประกันของชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากในปี 2565 จำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด จึงจำเป็นจะต้องมีหลักประกันที่มีผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างบั้นปลายชีวิต
4. อุตสาหกรรมประกันภัยต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันที่ครอบคลุมการรับประกันโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เป็นสาธารณะ เช่น สนามบิน ท่าเรือ รถไฟ ถนน เป็นต้น โดยโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ควรมีประกันวินาศภัย หรือประกันในรูปแบบต่าง ๆ รองรับ
5. อุตสาหกรรมประกันภัยต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ (BCG) และกรอบการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล(ESG) ซึ่งเป็นนโยบายที่ชัดเจนและรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก และ
6. อุตสาหกรรมประกันภัยต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างแม่นยำ เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้
อย่างไรก็ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอุตสาหกรรมประกันภัยจะเป็นกลไกหลักสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวและขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ มั่นคงจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากปัญหากับดักรายได้ปานกลาง ช่วยลดปัญหาความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากผ่านการเข้าถึงประกันภัยอย่างเท่าถึงและเพียงพอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รมว.คลัง ทราบจากข่าว 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ยันทำงานง่ายไม่มีปัญหา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนการคัดเลือกประธานกรรมการธน
'พิชัย' จ่อคุย 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' หลายเรื่อง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการนัดหารือกั
พรุ่งนี้รวย! 'พิชัย' ยันจ่ายเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง 25 ก.ย.แน่นอน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงเหตุผลของการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการ
เคาะแจกเงินหมื่นใน4วัน คนลงทะเบียนได้ลุ้นปี68!
“ภูมิธรรม-พิชัย” ประสานเสียงแจกเงินหมื่นเฟส 2 ต้องรอดูเฟสแรกจบก่อน “ขุนคลัง” รับไม่ทันปีนี้แน่นอน “ลวรณ” แจงรายละเอียดแจกกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนใน 4 วัน
'ดิจิทัลวอลเล็ต' เฟส 2 ไร้อนาคต! 'พิชัย' ย้ำชัดไม่ทันปีนี้แน่
'พิชัย' รับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' เฟส 2 แจกไม่ทันปีนี้ อ้างต้องดูหลายปัจจัย รวมถึงความพร้อมช่องทางการจ่าย ชี้ต้องตัดสิ่งที่เป็นปัญหา สร้างความเข็มแข็งให้ประเทศ
'ขุนคลัง' เคาะแล้ว 25 ก.ย. แจกเงินสด 1 หมื่นบาท กลุ่มแรก 14.2 ล้านคน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้แจงตอนหนึ่งว่าไม่มีใครแก้ไขค่าราคาพลังงานลดลงได้ เพราะราคาพลังของบ้านเรา นำเข้า 90เปอร์เซ็นต์ของน้ำมัน และนำเข้ากว่า65เปอร์เซ็นต์ของก๊าซธรรมขาติ