TDRI แนะ กทม. รัฐเปิดเจรจารอบใหม่ สางปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว และใช้เวลาก่อนหมดสัมปทานปี 2572 ปรับโครงสร้างค่าโดยสารทั้งระบบ
25 ต.ค.2564-นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่ง และโลจิสติกส์ ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายหลังกระทรวงมหาดไทย ได้ขอถอนวาระ การพิจารณาต่ออายุ สัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยระบุ หากพิจารณาอายุสัมปทานที่เหลือในขณะนี้ ในส่วนของรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่จะหมดในปี 2572 และสัญญาว่าจ้างเดินรถ ที่จะหมดในปี 2585 ขณะนี้ก็ยังถือว่ายังมีเวลาในการดำเนินการเจรจาหาทางออก
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ประเด็นเรื่องนี้ กทม. ซึ่งเห็นว่า มีทางออกเพียงทางเดียว คือ การดำเนินการเจรจาต่อสัมปทาน และไม่สามารถตอบประเด็นคำถามที่กระทรวงคมนาคม ตั้งประเด็นไว้ใน 4 ข้อได้ รวมทั้ง กทม.ยอมรับว่า ไม่มีเงิน ที่จะไปชำระภาระทางการเงินที่ กทม. รับโอนโครงสร้างส่วนต่อขยาย จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ซึ่งทำให้แนวทางแก้ปัญหาชะงักไป ในส่วนนี้เห็นว่า ท้ายที่สุดต้องดำเนินการเปิดโต๊ะเจรจา ระหว่าง กทม.และรัฐบาล ซึ่งต้องไปดูว่า จะต้องมีการรื้อ MOU ที่เคยลงนามไว้ ระหว่าง กทม.และ รฟม.หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทีดีอาร์ไอ เห็นว่าควรใช้โอกาสนี้ เร่งแก้ปัญหาโครงสร้างราคาค่ารถไฟฟ้าทั้งระบบ ให้จบก่อนสัญญาสัมปทานจะหมดลง ที่ผ่านมา กทม.เคยไปวางแนวคิด จะมีการแยกเก็บค่าโดยสาร ออกเป็น 3 โครงการ ซึ่งก็พบแล้วว่า ทำให้ราคาค่าโดยสารแพงขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลไม่จูงใจให้คนมาใช้บริการระบบ
“ยกตัวอย่าง อัตราที่ระบุมาว่า จากสถานีสะพานใหม่ ไปสมุทรปราการ จัดเก็บค่าโดยสาร 104 บาท โดยอ้างว่า มีประชาชนนั่งรถไฟฟ้าในระยะยาว ตั้งแต่ต้นถึงปลายทางน้อยมาก เมื่อเห็นว่ามีคนใช้น้อย แต่กลับไปคิดค่าโดยสารแพงอีก ก็ยิ่งไม่มีคนใช้ ทำไมไม่ทำให้ราคาถูก และมีคนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ” นายสุเมธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาระทางการเงินที่ กทม. ต้องดำเนินการ ตามที่ได้มีการ รับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ยอดเงินถึง 30 ก.ย. 2564 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1.ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่- คูคต ประกอบด้วย หนี้เงินกู้ค่าก่อสร้างงานโยธา (กู้จากกระทรวงการคลัง) วงเงิน 37,124,475,428 บาท เงินงบประมาณ ใช้ดำเนินการ เวนคืนจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน วงเงิน 7,216,333,199 บาท 2.ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ประกอบด้วย หนี้เงินกู้ฯ วงเงิน 19,824,304,936 บาทและเงินงบประมาณอีก วงเงิน 1,142,856,152 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เศรษฐา' รับฟังข้อเสนอประธาน ทีดีอาร์ไอ ทั้งเห็นด้วย-เห็นต่างนโยบายรัฐบาล
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำคณะผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือประเด็นนโยบายด้านการวิจัย
'ผอ.ทีดีอาร์ไอ' ชำแหละหลุมดำดิจิทัลวอลเล็ต เกิดค่าเสียโอกาสพัฒนาปท.
ผอ.ทีดีอาร์ไอ ชำแหละหลุมดำดิจิทัลวอลเล็ต เกิดค่าเสียโอกาสพัฒนาประเทศ เตือนกระทบความเชื่อมั่นในเรื่องของวินัยการคลังของรัฐบาล จนนำไปสู่ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ กระทบการลงทุนจากต่างชาติ
นักวิชาการ 'ทีดีอาร์ไอ' เผยผลศึกษาโครงการแจกเงินรัฐ พบเงินหมุนไม่ถึงครึ่งรอบ ชี้ได้ไม่คุ้มเสีย
นายสมชัย จิตสุชน นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอ หนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อ นักเศรษฐศาสตร์ เรียกร้องให้ยกเลิกแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Somchai Jitsuchon
‘TDRI’เตือนรัฐบาลใหม่ สร้างสมดุลนโยบายศก.
ทีดีอาร์ไอแนะ "ครม.เศรษฐา 1" สร้างสมดุล “เสรีนิยม-รัฐสวัสดิการ-อนุรักษนิยม” ชั่งน้ำหนักนโยบายให้เหมาะสถานการณ์