ประชาชนพึงพอใจมาตรการช่วยเหลือของรัฐเทใจให้ 'คนละครึ่ง'มากที่สุด

สรุปผลการสำรวจ : มาตรการช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19

24 ต.ค. 2564 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี มาตรการช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19 กลุ่มตัวอย่าง 1,309 คน สำรวจระหว่างวันที่ 18-21 ตุลาคม 2564 พบว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ประชาชนได้เข้าร่วมมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 มากที่สุด ร้อยละ 78.61 รองลงมาคือมาตรการลดค่าน้ำค่าไฟ ร้อยละ 34.76 มองว่ามาตรการต่าง ๆ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้บ้าง ร้อยละ 62.10 เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังมีมาตรการก็ยังใช้จ่ายรายเดือนเท่าเดิม ร้อยละ 43.45 โดยภาพรวมประชาชนค่อนข้างพึงพอใจมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ร้อยละ 49.81 โดยพึงพอใจมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 มากที่สุด ร้อยละ 78.66 และนอกจากมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการไปแล้วประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรมีมาตรการเร่งด่วน คือ ควบคุมราคาสินค้าและค่าครองชีพ ร้อยละ 75.25 ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ร้อยละ 70.61

จากผลการสำรวจจะเห็นได้ว่าประชาชนเทใจให้มาตรการ “คนละครึ่ง” เพราะอย่างน้อยก็เป็นเงินที่เข้ากระเป๋าโดยตรงเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรการอื่น ๆ ถึงจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายมากนัก แต่ก็ช่วยประคับประคองให้มีระดับการบริโภคเท่าเดิม เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่แน่นอนทำให้ประชาชนต้องวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาจึงนับว่าเป็นการเยียวยาประชาชนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้อยู่บ้าง

ดร.จิรัฐ ชวนชม คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จากผลสำรวจ พบว่า ประชาชนได้เข้าร่วมมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 มากที่สุด และได้รับการตอบรับจากประชาชนมากที่สุดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้จากข้อมูลมีจำนวนประชาชนเข้าร่วมโครงการทั้งหมดอยู่ที่ 27.86 ล้านคน จากสิทธิที่เข้าร่วมได้ 28 ล้านสิทธิ คิดเป็น 99.5% ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับผลตอบรับที่ดี เนื่องจากประชาชนสามารถนำเงินที่ได้ไปใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขั้นพื้นฐาน คือ ปัจจัย 4 ประกอบด้วย อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย นอกจากนี้เมื่อดำเนินการวิเคราะห์การเปรียบเทียบก่อนและหลังที่มีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ แต่ยังคงพบว่าประชาชนก็ยังใช้จ่ายรายเดือนเท่าเดิม สาเหตุมาจากการที่ประชาชนยังคงเกิดความกังวลกับภาวะโรคระบาดโควิด-19 ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ทำให้ต้องมีการวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบ เมื่อพิจารณาภาพรวมประชาชนค่อนข้างพึงพอใจมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ และมาตรการที่อยากให้ทำอย่างเร่งด่วนคือการควบคุมราคาสินค้าและค่าครองชีพ เนื่องจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ประชาชนต้องใช้เงินในการซื้อสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รทสช.จ่ออภิปรายงบปี 2568 แนะรัฐบาลต่อยอดโครงการลุงตู่!

รทสช. นัดประชุม สส. สัปดาห์หน้า เตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบ 2568-ประชามติ เน้นชี้แนะรัฐบาล จัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตพร้อมสะท้อนความต้องการประชาชน

'นิพิฏฐ์' ชำแหละ 'ดิจิทัล วอลเล็ต' กับ 'ยาเสพติด' มีคนจำนวนหนึ่งไม่นำไปซื้อข้าวสาร สบู่ ยาสีฟัน แน่

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ดิจิทัล วอลเลต กับ ยาเสพติด มีรายละเอียดดังนี้