รัฐบาลยูเครนฉุนรัสเซียเปิดระเบียงมนุษยธรรมในเมืองที่กำลังโดนถล่มอย่างหนัก แต่เป็นเส้นทางอพยพผู้ลี้ภัยเข้าเบลารุสและรัสเซีย ซัดเป็นเรื่องผิดศีลธรรมอย่างสิ้นเชิง ด้าน "เอมมานูเอล มาครง" ตอก "วลาดิมีร์ ปูติน" หน้าซื่อใจคดเย้ยหยันศีลธรรม
![](https://storage-wp.thaipost.net/2022/03/324M6EB-highres.jpg)
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศพักการโจมตีและเปิดระเบียงมนุษยธรรมเป็นเส้นทางให้ชาวยูเครนอพยพหนีภัยออกจากกรุงเคียฟ, เมืองคาร์คิฟและซูมีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเมืองมาริอูโปลในภาคใต้ เริ่มตั้งแต่เช้าวันจันทร์ตามเวลายูเครน โดยอ้างว่าเป็นการทำตามคำร้องขอเป็นการส่วนตัวของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินนาน 1 ชั่วโมง 45 นาทีเมื่อวันอาทิตย์
อย่างไรก็ดี ปรากฏในเวลาต่อมาว่า เส้นทางของระเบียงมนุษยธรรมจากหลายเมืองเป็นการอพยพข้ามชายแดนเข้ารัสเซียและเบลารุส เพื่อนบ้านทางเหนือของยูเครนที่เปิดทางให้กองทัพรัสเซียรุกรานข้ามพรมแดนลงมาทางใต้
โฆษกของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวถึงคำประกาศของรัสเซียว่า "ผิดศีลธรรมอย่างสิ้นเชิง" และว่า รัสเซียกำลังพยายามใช้ความทุกข์ยากของผู้คนสร้างภาพทางโทรทัศน์ "พวกเขาเป็นพลเมืองของยูเครน และควรมีสิทธิที่จะอพยพไปยังดินแดนของยูเครน" โฆษกผู้นี้กล่าวกับรอยเตอร์
ด้านวลาดิมีร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย ที่มาพูดคุยกับตัวแทนของยูเครนเป็นรอบที่ 3 เมื่อวันจันทร์ กล่าวหายูเครนว่ากำลังก่ออาชญากรรมสงคราม จากการขัดขวางระเบียงมนุษยธรรมไม่ให้พลเรือนหลบหนี "พวกชาตินิยมที่ยึดที่มั่นในเมืองต่างๆ ยังคงกักพลเรือนไว้ที่นั่น" เขากล่าว และโจมตียูเครนว่าใช้พลเรือนเป็น "โล่มนุษย์"
ทางฝั่งทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปฏิเสธว่ามาครงไม่ได้ร้องขอให้เปิดระเบียงมนุษยธรรมให้อพยพคนเข้ารัสเซียและเบลารุส
ต่อมา มาครงให้สัมภาษณ์กับสถานี LCI กล่าวหาปูตินว่าหน้าซื่อใจคดและดูถูกเย้ยหยัน "ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่มีความจริงจังเลย เป็นการเย้ยหยันทางศีลธรรมและการเมือง ซึ่งผมเห็นว่าเกินทน" ผู้นำฝรั่งเศสที่คุยกับปูตินเป็นรอบที่ 4 แล้ว กล่าว
มาครงเสริมอีกว่า การให้คำมั่นสัญญาจะปกป้องพลเรือน เพียงเพื่อให้พวกเขาหนีไปยังรัสเซียนั้น เป็นเรื่อง "หน้าซื่อใจคด" และว่า ไม่รู้ว่าจะมีชาวยูเครนอยากไปรัสเซียสักกี่คน
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า การหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบเพื่อปกป้องพลเรือนสำคัญกว่าการจัดตั้งระเบียง สถานการณ์ในยูเครนเวลานี้เลวร้ายลงทุกวัน และความพยายามของนานาชาติเพื่อให้หยุดยิง ถึงบัดนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดตอนนี้ มาครงชี้ว่าคือการหลีกเลี่ยง "ความหายนะ" ที่เกิดจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครนซึ่งเปิดใช้งานอยู่ 4 โรง หลังจากรัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียไว้ได้เมื่อสัปดาห์ก่อน
มาครงยืนกรานด้วยว่า ฝรั่งเศสไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซีย แต่เราต้องการหยุดสงครามนี้โดยที่เราไม่ต้องกลายเป็นศัตรูต่อกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนเผย เคยมีแผนลอบสังหาร ‘ปูติน’ หลายครั้งแล้ว
ตามรายงานข่าวกรองทางทหารของยูเครน พบว่ามีการพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียหลายครั้งแล้ว “แต่อย่างที่คุณเห็น พวกเขาทำไม่สำเร็จ” นายพลคิริโล บูดานอฟ-หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร กล่า
นายกฯ ฮังการีดอดเยือนยูเครนเข้าพบ ‘เซเลนสกี’
ประมุขแห่งรัฐฮังการีไม่เคยมีท่าทีเข้าข้างยูเครนมาแต่ไหนแต่ไร วิกตอร์ ออร์บันแทบไม่เคยคิดให้ความช่วยเหลือ หรือถ้ามีก็น้อย
รวบชาวรัสเซีย ลักลอบสอนขับรถในภูเก็ต
ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต จับกุม ชาวต่างชาติ (รัสเซีย) ลักลอบทำงานเป็นครูสอนขับรถ แย่งอาชีพคนไทย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โปแลนด์ตั้งเขตกันชนบริเวณชายแดนเบลารุส
โปแลนด์สงสัยมานานแล้วว่าเบลารุสพยายามจัดตั้งกลุ่มคนที่แสวงหาความคุ้มครองจากภูมิภาคที่มีภาวะวิกฤตเพื่อนำไปถึงช
'เศรษฐา' บินคืนนี้ทัวร์ฝรั่งเศสแดนแฟชั่นรอบ 2!
นายกฯ บินฝรั่งเศสคืนนี้ นำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand - France Business Forum พบหารือประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก่อนเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ