กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศพักการโจมตีและเปิดระเบียงมนุษยธรรมในหลายเมืองของยูเครนรวมถึงกรุงเคียฟเมื่อวันจันทร์ เปิดโอกาสให้ชาวยูเครนอพยพจากเมืองเหล่านี้ ซึ่งโดนถล่มอย่างหนัก หลังจากการหยุดยิงเพื่ออพยพพลเรือนในเมืองมาริอูโปลเมื่อสุดสัปดาห์ล่มลงอีก
![](https://storage-wp.thaipost.net/2022/03/324L3QT-highres.jpg)
รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 อ้างแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมของรัสเซียว่า กองทัพรัสเซียประกาศพักการโจมตีด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลามอสโก (14.00 น. ตามเวลาไทยในวันเดียวกัน) และเปิดระเบียงมนุษยธรรมเป็นเส้นทางสำหรับการอพยพออกจากกรุงเคียฟ, เมืองมาริอูโปลในภาคใต้, เมืองคาร์คิฟในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเมืองซูมีในภาคเหนือ
รัสเซียตัดสินใจจัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมขึ้นตามคำร้องขอจากประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่เรียกร้องกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างที่ทั้งคู่สนทนาทางโทรศัพท์กันเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการคุยกันครั้งที่ 4 นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
รัฐบาลรัสเซียกล่าวด้วยว่า ได้แจ้งไปยังองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น), องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) และองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งระเบียงนี้แล้ว และเรียกร้องให้ยูเครนปฏิบัติตามเงื่อนไขการอพยพทั้งหมดอย่างเข้มงวด "เราคาดหวังการกระทำที่เป็นรูปธรรมจากทางการเคียฟ รวมถึงจากผู้นำของเมืองต่างๆ ที่กล่าวถึง" คำแถลงกล่าว
ตามแผนที่ที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซีย ระเบียงมนุษยธรรมจากกรุงเคียฟจะทอดยาวไปถึงเบลารุส ประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือของยูเครนที่เป็นพันธมิตรของรัสเซีย ส่วนเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน เส้นทางอพยพพลเรือนจะนำไปยังรัสเซียเท่านั้น ขณะที่ระเบียงจากเมืองมาริอูโปลและซูมี จะนำพาไปยังเมืองอื่นๆ ของยูเครน และไปยังรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวด้วยว่า ผู้ที่ต้องการเดินทางออกจากกรุงเคียฟยังสามารถเดินทางทางอากาศไปยังรัสเซียได้ด้วย
รัสเซียจะสังเกตการณ์การอพยพโดยใช้โดรนบินสำรวจ "ความพยายามโดยฝ่ายยูเครนเพื่อตบตารัสเซียและคนทั้งโลกอารยะจะไร้ประโยชน์ในคราวนี้" คำแถลงกล่าวเสริม
ยูเอ็นกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การสู้รบ 12 วันที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้อพยพลี้ภัยออกจากยูเครนเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วมากกว่า 1.5 ล้านคน เป็นวิกฤติผู้ลี้ภัยที่เพิ่มจำนวนเร็วที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 364 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 20 คน และมีคนบาดเจ็บอีกหลายพันคน
ที่เมืองท่ามาริอูโปลติดทะเลดำในภาคใต้ ประชากรประมาณ 200,000 คน หรือราวครึ่งหนึ่งของเมืองนี้ ยังติดอยู่กลางการสู้รบโดยส่วนใหญ่หลบภัยอยู่ใต้ดิน การถล่มของรัสเซียติดต่อกัน 6 วันทำให้เมืองนี้ขาดแคลนอาหารและน้ำ ไม่มีไฟฟ้าและเครื่องทำความร้อน แผนการอพยพชาวเมืองเหล่านี้ล้มเหลวเป็นครั้งที่ 2 ในวันอาทิตย์ ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดการหยุดยิง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนเผย เคยมีแผนลอบสังหาร ‘ปูติน’ หลายครั้งแล้ว
ตามรายงานข่าวกรองทางทหารของยูเครน พบว่ามีการพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียหลายครั้งแล้ว “แต่อย่างที่คุณเห็น พวกเขาทำไม่สำเร็จ” นายพลคิริโล บูดานอฟ-หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร กล่า
นายกฯ ฮังการีดอดเยือนยูเครนเข้าพบ ‘เซเลนสกี’
ประมุขแห่งรัฐฮังการีไม่เคยมีท่าทีเข้าข้างยูเครนมาแต่ไหนแต่ไร วิกตอร์ ออร์บันแทบไม่เคยคิดให้ความช่วยเหลือ หรือถ้ามีก็น้อย
รวบชาวรัสเซีย ลักลอบสอนขับรถในภูเก็ต
ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต จับกุม ชาวต่างชาติ (รัสเซีย) ลักลอบทำงานเป็นครูสอนขับรถ แย่งอาชีพคนไทย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ทางการรัสเซียจับกุมทหารสหรัฐฯ
ทหารอเมริกันนายหนึ่งซึ่งประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ได้เดินทางไปรัสเซียด้วยวัตถุประสงค์ส่วนตัว เขาถูกจับกุมที่เมืองวล
ยูเครนอ้าง รัสเซียวางแผน 'ลักพาตัวและสังหาร' ประธานาธิบดีเซเลนสกี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวยูเครน 2 คนซึ่งถูกกล่าวหาว่า วางแผนโจมตีประธานาธิบดีเซเลนสกี้ถูกจับกุมแล้ว เจ้าหน้