กลุ่มมือปืนบุกโจมตีโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามภายในค่ายผู้ลี้ภัยโรฮีนจาในบังกลาเทศเมื่อวันศุกร์ เหยื่อตาย 7 คน บาดเจ็บ 20 คน บางคนแขนขาขาด คาดฝีมือกลุ่มติดอาวุธอาร์ซาที่เคยถล่มทหารเมียนมาจนโรฮีนจาโดนกวาดล้างเมื่อปี 2560
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 ว่า เหตุการณ์รุนแรงล่าสุดเกิดที่ค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งภายในศูนย์ผู้ลี้ภัยบาลูคาลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายค่ายผู้ลี้ภัยกว้างใหญ่ของบังกลาเทศที่พักพิงชาวโรฮีนจา 900,000 คน ค่ายที่เกิดเหตุนี้มีผู้ลี้ภัยอยู่กันมากกว่า 27,000 คน หน่วยความมั่นคงบังกลาเทศปิดค่ายนี้ทันทีหลังเกิดเหตุ
รายงานอ้างคำกล่าวของตำรวจและแพทย์ว่า กลุ่มคนร้ายชาวโรฮีนจาใช้อาวุธปืนและมีดโจมตีผู้คนในมัดรอซะห์ ดารุลอุลุมนัดวาตุลอุลามะอัลอิสลาเมีย เมื่อเวลาก่อนรุ่งสาง "โดยสุ่มยิงและแทงผู้คนที่อยู่ภายใน" มีเหยื่อเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 4 คน อีก 3 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในค่าย ตำรวจไม่ได้บอกว่ามีคนบาดเจ็บกี่คน แต่แพทย์จากองค์กรแพทย์ไร้พรมแดนผู้หนึ่งกล่าวว่า มีคนบาดเจ็บสาหัสประมาณ 20 คนที่ถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล หลายคนแขนขาด ขาขาด หรือไม่มีดวงตา สภาพของพวกเขาหนักมาก
ชิฮับ ไคซาร์ ข่าน ตำรวจท้องที่ เผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทันที 1 คนพร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก, กระสุน 6 นัด และมีด 1 เล่ม
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ก็เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายฆ่าโมฮิบ อุลลาห์ ครูวัย 48 ปีที่เป็นตัวแทนชุมชนโรฮีนจา ในค่ายอีกแห่งใกล้กัน และทำให้นักเคลื่อนไหวชาวโรฮีนจาหลายคนต้องหลบซ่อนตัวหรือขอให้ตำรวจและหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติคุ้มครอง นักเคลื่อนไหวบางคนโทษว่าเป็นฝีมือกองทัพกอบกู้โรฮีนจาแห่งอาระกัน (อาร์ซา) แม้กลุ่มนี้จะปฏิเสธ
อาร์ซาเป็นกองกำลังติดอาวุธที่เคยโจมตีกองกำลังความมั่นคงเมียนมาในรัฐยะไข่เมื่อปี 2560 จุดชนวนให้กองทัพเปิดปฏิบัติการปราบปราม ทำให้ชาวโรฮีนจาหนีข้ามชายแดนเข้าบังกลาเทศ 740,000 คน กลุ่มนี้ยังเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการทำผิดกฎหมายอื่นๆ และกำลังพยายามควบคุมค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ
นักเคลื่อนไหวชาวโรฮีนจาที่อยู่ต่างแดนรายหนึ่งที่รู้จักครูในมัดรอซะห์แห่งนี้กล่าวโทษอาร์ซาว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะโรงเรียนแห่งนี้ปฏิเสธจ่ายค่าคุ้มครอง ตั้งแต่ปีที่แล้วพวกนี้สั่งให้ทุกโรงเรียนในค่ายจ่ายเงินค่าคุ้มครองเดือนละ 10,000 ตากา (เกือบ 3,900 บาท) ส่วนครูให้จ่าย 500 ตากา
ผู้ปฏิบัติงานด้านสิทธิรายหนึ่งยืนยันเช่นกันว่า โรงเรียนสอนศาสนาแห่งนี้ไม่ยอมรับการควบคุมของกลุ่มอาร์ซา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รศ.ดร.วินัย' บอก 'คนปาเลสไตน์' ชีวิตรวดร้าวยิ่งกว่าชาวโรฮีนจา!
'รศ.ดร.วินัย' เล่าประสบการณ์เรื่องคนปาเลสไตน์ บอกไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนของตนเอง หรือลี้ภัยในประเทศอื่น ชีวิตรวดร้าวยิ่งกว่าชาวโรฮีนจาจากเมียนมา วอนคนนอกเห็นใจและสงสารพวกเขาบ้าง