ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กร้าว สหรัฐพร้อมจะปกป้องไต้หวันหากถูกจีนโจมตี แต่ทำเนียบขาวรีบแจงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายนอกเหนือพันธสัญญาที่มีอยู่เดิม ด้านจีนเตือนจะพูดจะทำอะไรเรื่องไต้หวันให้ระวัง จีนไม่รอมชอมให้
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงท่าทีแข็งกร้าวดังกล่าวระหว่างร่วมรายการถาม-ตอบของสถานีซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยไบเดนกล่าวตอบคำถามที่ว่า สหรัฐอเมริกาจะปกป้องไต้หวันหรือไม่หากไต้หวันถูกจีนรุกราน "ใช่ เรามีพันธสัญญาที่ต้องทำเช่นนั้น"
คำกล่าวของไบเดนขัดแย้งกับนโยบายที่เรียกว่า "ความคลุมเครือเชิงยุทธศาสตร์" ที่สหรัฐยึดถือมาช้านาน โดยสหรัฐจะช่วยให้ไต้หวันเสริมสร้างการป้องกันตนเอง แต่ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างชัดแจ้งว่าสหรัฐจะไปช่วยไต้หวันในกรณีที่เกิดสงคราม นโยบายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องปรามการรุกรานของจีน และยังปรามไม่ให้ไต้หวันประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งที่จีนยอมไม่ได้
ไบเดนเคยให้คำมั่นคล้ายกันระหว่างให้สัมภาษณ์กับเอบีซีเมื่อเดือนสิงหาคม ด้วยการยืนกรานว่าสหรัฐปกป้องพันธมิตรสำคัญของสหรัฐเสมอ โดยบอกว่าสหรัฐมีพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ที่จะปกป้องพันธมิตรในนาโต และเป็นแบบเดียวกันกับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือแม้แต่ไต้หวัน คำกล่าวของเขาทำให้ต่อมาทำเนียบขาวต้องชี้แจงว่า นโยบายของสหรัฐเกี่ยวกับไต้หวันนั้น "ไม่เปลี่ยนแปลง"
ครั้งนี้โฆษกทำเนียบขาวก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของสหรัฐ แต่เขาปฏิเสธที่จะตอบว่าไบเดนพูดผิดหรือไม่ "ความสัมพันธ์ด้านการป้องกันของสหรัฐกับไต้หวันเป็นไปตามกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน เราจะรักษาพันธกรณีของเราภายใต้กฎหมายฉบับนี้ เราจะยังคงสนับสนุนการป้องกันตนเองของไต้หวัน และเราจะยังคงคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่โดยฝ่ายเดียว" โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันแสดงความยินดีเมื่อวันศุกร์ โดยกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐแสดงให้เห็นผ่านการกระทำจริง ถึงการสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อไต้หวัน
ขณะที่รัฐบาลจีน โดยหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงที่กรุงปักกิ่งวันศุกร์ว่า คำกล่าวของไบเดนเสี่ยงต่อการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ พร้อมกับเตือนว่า สหรัฐควร "ทำและพูดอย่างระมัดระวังในประเด็นไต้หวัน"
"จีนไม่มีที่ว่างสำหรับการประนีประนอมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของจีน" โฆษกผู้นี้กล่าว และว่า สหรัฐไม่ควรดูเบาความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า, เจตจำนงอันแน่วแน่ และความสามารถอันแข็งแกร่งของจีน ที่จะป้องกันต่อสิ่งที่จีนมองว่าเป็นภัยคุกคามอำนาจอธิปไตยของตน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รมว.ยธ.' ตอกกลับ 'กัณวีร์' ยันจีนเปิดเสรีเยี่ยมอุยกูร์ หลังจากนี้ให้ไปได้อีก
'ทวี' ยันหลังเยี่ยมอุยกูร์ ทุกคนปลอดภัยดี แต่ไม่ได้พบทุกคนเหตุอยู่คนละพื้นที่ห่างไกล ย้อน 'กัณวีร์' เป็นมุสลิมหรือเปล่า กล่าวหาผู้หญิงเข้าสวมกอด สอน สส. หัดคิดถึงประโยชน์ประเทศ
ชาวอุยกูร์ บอกหลงเชื่อกลุ่มหัวรุนแรงชวนไปตุรกี ดีใจได้กลับมาดูแลพ่อแม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะ และ สื่อมวลชน มาเยี่ยมชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คน ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย ซึ่งพักอาศัยอยู่ในอำเภอซาเชอ เมืองคาซือ
ชาวอุยกูร์ เผยกลุ่มก่อการร้ายโกหกให้หลบหนี ยันไม่มีการบังคับ ขอบคุณ 'สี จิ้นผิง'
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกไทยส่งกลับเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
'กัณวีร์' ได้เวลาซักฟอก 40 นาที ตอนแรกจะพูด 3 เรื่อง เปลี่ยนใจเน้นแค่เรื่องเดียว
นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ พาสื่อมวลชน
'ทูตรัศม์' มองผลประโยชน์ของจีนคือ ชาวอุยกูร์อยู่ดีมีสุข แต่คนมีอคติก็ยังไม่หยุดโจมตีรัฐบาล
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ต่อข้อสงสัยของบางคนถึงสวัสดิภาพที่แท้จริงของชาวจีนอุยกูร์ 40 คนนั้น
ชาวอุยกูร์ บอกคนไทยไม่ต้องห่วง ชีวิตปกติดี มีวัว 52 ตัว จีนสร้างบ้านให้
นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี ได้วิดีโอคอล กับชาวอุยกูร์ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศไทย จำนวน 6 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับมาเมื่อปี 58 ซึ่งได้เล่าชีวิตหลังกลับมายังเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์