สมัชชายูเอ็นตำหนิรัสเซียรุกรานยูเครน ไอซีซีสอบอาชญากรรมสงคราม

ยูเครนยอมรับทหารรัสเซียเข้าควบคุมเมืองเคอร์ซอนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ยูเอ็นเผยมีผู้อพยพหนีภัยสู้รบเกิน 1 ล้านคนแล้ว พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 227 ศพ ไอซีซีเปิดสอบสวนรัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม สมัชชายูเอ็นผ่านข้อมติตำหนิรัสเซียรุกรานและเรียกร้องให้ถอนทหารทันที ขณะรัสเซียเปิดเผยครั้งแรกว่ามีทหารตายไปเกือบ 500 นาย

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ลงมติเห็นชอบข้อมติตำหนิการรุกรานยูเครนและเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารทันที เมื่อวันพุธที่ 2 มี.ค. 2565 (Getty Images)

รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 8 นับแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งการให้กองทัพรัสเซียบุกโจมตียูเครน โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียและเจ้าหน้าที่ของยูเครนยืนยันว่า รัสเซียเข้าควบคุมเมืองเคอร์ซอนในภาคใต้ของยูเครนได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว หลังจากวันก่อนหน้านั้นมีการให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันระหว่างสองฝ่าย

เกนนาดี ลาคูตา เจ้าหน้าที่ยูเครนประจำภูมิภาคนั้น ยอมรับเมื่อคืนวันพุธว่า ชาวรัสเซียผู้ยึดครองเข้ามาอยู่ใน "ทุกพื้นที่" ของเคอร์ซอนแล้ว ขณะที่อีกอร์ โคลีคาเยฟ นายกเทศมนตรีกล่าวว่า เขากำลังเจรจากับ "ผู้มาเยือนที่ติดอาวุธ"

รัสเซียล้อมโจมตีเมืองนี้นาน 3 วัน ทำให้ชาวเมืองขาดแคลนอาหารและยา และไม่สามารถออกไปเก็บศพคนตายได้ โคลีคาเยฟกล่าวว่า ทหารรัสเซียอยู่บนถนนและเข้ามาในอาคารสภาเมือง เขาเรียกร้องชาวเมืองว่าควรออกมานอกบ้านเฉพาะเวลากลางวันเท่านั้นและควรออกมาเป็นกลุ่มเล็กๆ "ผู้มาเยือนติดอาวุธเข้ามาในคณะกรรมการบริหารเมืองวันนี้ ผมไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาอะไรกับพวกเขา แค่ขอร้องพวกเขาว่าอย่ายิงประชาชน"

เมืองท่าติดทะเลดำที่มีประชากรประมาณ 290,000 คนแห่งนี้ได้ ถือเป็นเมืองศูนย์กลางที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งแรกที่รัสเซียเข้ายึดไว้ได้ เมืองนี้ตั้งอยู่ติดแม่น้ำนีเปอร์ที่ไหลลงสู่ทะเลดำ และเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งจัดซ้อมรบที่มีนาโตให้การสนับสนุน การควบคุมเมืองนี้ได้เป็นความคืบหน้าสำหรับรัสเซียที่ประกาศว่าพร้อมจะพูดคุยสันติภาพกับยูเครนอีกครั้งในวันพฤหัสบดี

มีไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของยูเครนเดินทางไปเจรจารอบที่ 2 กับเจ้าหน้าที่ของรัสเซียเกี่ยวกับการหยุดยิง ในสถานที่ที่ไม่เปิดเผยบริเวณชายแดนเบลารุส-โปแลนด์ รัฐบาลยูเครนประกาศไว้ล่วงหน้าด้วยว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับ "การยื่นคำขาด"

ในพื้นที่อื่น รัสเซียยังคงรุกคืบหน้าต่อไปในแนวรบภาคใต้ โดยกำลังโอบล้อมเมืองท่าขนาดใหญ่มาริอูโปลที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ขณะเดียวกับก็กำลังเบิกเส้นทางในทิศตะวันตกและเหนือ

ที่มาริอูโปล นายกเทศมนตรีวาดิม บอยเชนโก กล่าวเมื่อวันพุธว่า รัสเซียถล่มเมืองนี้นานหลายชั่วโมง ตอนนี้ชาวเมืองไม่มีไฟฟ้า, ไม่มีน้ำ และไม่มีเครื่องทำความร้อน ในขณะที่อุณหภูมิต่ำระดับจุดเยือกแข็ง วันนี้เป็นวันที่หนักหน่วงที่สุดและโหดร้ายที่สุดในช่วง 7 วันที่เกิดสงคราม วันนี้พวกรัสเซียแค่ต้องการทำลายพวกเราทั้งหมด

ทหารรัสเซียยังคงเดินหน้าถล่มเป้าหมายที่เป็นพลเรือนอย่างประปรายทั่วยูเครน โดยเฉพาะในกรุงเคียฟ และเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผู้คนพูดภาษารัสเซีย ที่กรุงเคียฟมีรายงานเกิดระเบิดที่สถานีรถไฟเคียฟ ที่ผู้หญิงและเด็กหลายพันคนกำลังถูกอพยพ กระทรวงมหาดไทยยูเครนกล่าวว่า ระเบิดเกิดจากซากชิ้นส่วนของมิสไซล์ครูซ ยังไม่มีรายงานคนบาดเจ็บล้มตายที่นี่

เมื่อวันพฤหัสบดี สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) ยืนยันว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 227 คน นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จนถึงเที่ยงคืนวันอังคารที่ 1 มีนาคม และมีผู้บาดเจ็บ 525 คน แต่หน่วยงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แห่งนี้ยอมรับว่าตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก เนื่องจากความล่าช้าของการรายงาน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประณามว่า การยิงมิสไซล์, ปืนใหญ่ และจรวด ถล่มยูเครนถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม และเมื่อวันพุธ อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในกรุงเฮก ประกาศว่าได้เริ่มเปิดการสอบสวนอาชญากรรมสงครามในยูเครนแล้ว หลังจากสำนักงานอัยการไอซีซีได้รับคำร้องจาก 39 รัฐภาคี ซึ่งเป็นจำนวนที่มากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งยูเอ็นเปิดเผยด้วยว่า ถึงขณะนี้มีชาวยูเครนอพยพหนีภัยข้ามชายแดนเข้าประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งโปแลนด์, สโลวาเกีย, ฮังการี, โรมาเนีย และมอลโดวา แล้วมากกว่า 1 ล้านคน

ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งมี 193 ชาติสมาชิก ประชุมวาระพิเศษเกี่ยวกับวิกฤติยูเครนนานกว่า 2 วัน โดยที่ประชุมลงมติอย่างท่วมท้นเมื่อวันพุธ ด้วยคะแนน 141 ต่อ 5 เห็นชอบข้อมติตำหนิการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน "ทันที" มี 4 ประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับข้อมตินี้พร้อมกับรัสเซีย ได้แก่ เบลารุส, เกาหลีเหนือ, เอริเทรีย และซีเรีย โดยจีนและคิวบางดออกเสียง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ภายหลังการลงมติว่า โลกกำลังปฏิเสธคำโกหกของรัสเซีย "รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและวิกฤติด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่พวกเรากำลังมองดูการเกิดขึ้นในยูเครนแบบเรียลไทม์"

การโจมตีของรัสเซียนำไปสู่การรุมคว่ำบาตรและลงโทษโดยนานาชาติที่กำลังคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด และก่อความวิตกว่าจะเกิดความขัดแย้งที่กว้างขึ้นระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตกที่ส่งอาวุธมาช่วยกองทัพยูเครน

เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวที่กรุงมอสโกว่า รัสเซียยังคงต้องการทำให้ยูเครนปลอดการทหาร และควรมีรายการของอาวุธบางชนิดที่ไม่ควรถูกวางกำลังในดินแดนของยูเครน และว่า รัสเซียจะเผชิญกับ "อันตรายอย่างแท้จริง" หากยูเครนซึ่งต้องการเข้าร่วมนาโต มีอาวุธนิวเคลียร์

รายงานข่าวของสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียเมื่อวันพุธ อ้างคำกล่าวของเขาด้วยว่า หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้น ก็จะเป็นสงครามนิวเคลียร์และจะทำลายล้าง อย่างไรก็ตาม ลัฟรอฟยืนยันว่า ความคิดเรื่องสงครามนิวเคลียร์ไม่ได้อยู่ในหัวของรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธว่า สูญเสียทหารแล้ว 498 นาย ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ และอีก 1,597 นายได้รับบาดเจ็บ ข้อมูลนี้แตกต่างอย่างมากจากของยูเครน ที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีอ้างว่า มีทหารรัสเซียถูกฆ่าตายไปแล้วประมาณ 9,000 นาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนเผย เคยมีแผนลอบสังหาร ‘ปูติน’ หลายครั้งแล้ว

ตามรายงานข่าวกรองทางทหารของยูเครน พบว่ามีการพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียหลายครั้งแล้ว “แต่อย่างที่คุณเห็น พวกเขาทำไม่สำเร็จ” นายพลคิริโล บูดานอฟ-หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร กล่า