ยูเครนยังสามารถต้านทหารรัสเซียไม่ให้บุกยึดเมืองหลวง แม้โดนปืนใหญ่และมิสไซล์ถล่มหนัก เคียฟเคอร์ฟิวหลังรัสเซียส่งมือก่อวินาศกรรมแทรกซึม "ปูติน" กริ้วยูเครนไม่รับข้อเสนอเจรจาสั่งทหารบุกจากทุกทิศทุกทาง ตะวันตกส่งอาวุธสนับสนุนยูเครนเพิ่ม อีกทางตัดธนาคารรัสเซียหลายแห่งพ้นระบบ "สวิฟต์" แล้ว
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียมีคำสั่งใหม่ให้ทหารรุกคืบเข้ายูเครน "จากทุกทิศทุกทาง" เมื่อวันเสาร์ โดยอีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกองทัพ เผยในแถลงการณ์ว่า คำสั่งนี้มีออกมาหลังจากยูเครนปฏิเสธกระบวนการเจรจา
"วันนี้ทุกหน่วยได้รับคำสั่งให้รุกคืบหน้าจากทุกทิศทางตามแผนยุทธการ" เขากล่าว พร้อมกับรายงานจากกองทัพว่า รัสเซียยิงมิสไซล์ครูซถล่มเป้าหมายทางทหารและรุกคืบโจมตีต่อ หลังจากปูตินสั่งหยุดพักเมื่อวันศุกร์ แต่รัฐบาลยูเครนปฏิเสธว่ารัสเซียไม่เคยหยุดพักโจมตี
เมื่อวันศุกร์ ทำเนียบเครมลินกล่าวว่า ปูตินพร้อมจะส่งผู้แทนไปยังกรุงมินสค์ของเบลารุส เพื่อพูดคุยกับยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนกล่าวถึงข้อเสนอที่ยูเครนจะวางตัวเป็นกลาง โดยระงับการขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโตไว้ก่อน แต่ยูเครนตั้งเงื่อนไขว่าต้องการเจรจาที่กรุงวอร์ซอของโปแลนด์แทน
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐประเมินว่า ราวครึ่งหนึ่งของกำลังพลรัสเซียมากกว่า 150,000 นายที่เคยวางกำลังไว้ตลอดแนวชายแดนยูเครนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะนี้เข้ามาภายในดินแดนของยูเครนแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า รัสเซียสูญเสียโมเมนตัมในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และกองทัพรัสเซียยังไม่สามารถครองความเหนือกว่าทางอากาศในยูเครน
กองทัพยูเครนประกาศว่ายังสามารถต้านทานการโจมตีกรุงเคียฟไว้ได้ แต่ตอนนี้ทหารกำลังต่อสู้กับ "กลุ่มก่อวินาศกรรม" ที่แทรกซึมเข้ามาในเมืองหลวง ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในเคียฟกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า มีเสียงระเบิดดังกึกก้องเป็นครั้งคราว โดยทหารยูเครนกล่าวว่าเป็นเสียงปืนใหญ่และมิสไซล์แกรด
ตึกระฟ้าที่เป็นอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งโดนโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์ หน่วยฉุกเฉินกล่าวว่าอาคารหายไปทั้งแถบรวม 5 ชั้น วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีเคียฟ กล่าวว่า อาคารหลังนี้โดนมิสไซล์โจมตี และทหารรัสเซียกำลังรุกโจมตีมาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกของเคียฟ "ศัตรูยังบุกเข้ามาในเมืองไม่ได้ แต่กลุ่มก่อวินาศกรรมกำลังปฏิบัติการในกรุงเคียฟ" เขากล่าว
คลิตช์โกประกาศเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟ โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหลังเวลา 17.00 น. ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถือว่าเป็น "สมาชิกกลุ่มก่อวินาศกรรมและสอดแนมของข้าศึก" เคอร์ฟิวจะมีผลบังคับถึงเวลา 08.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น
มีรายงานจากบริการสื่อสารพิเศษของยูเครนว่า คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองวาซิลคิฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟทางตะวันตกเฉียงใต้ไม่ถึง 30 กม. ตกเป็นเป้าโจมตีเมื่อวันคืนวันเสาร์และเกิดไฟไหม้รุนแรง นอกจากนี้ท่อส่งก๊าซเส้นหนึ่งในเมืองคาร์คิฟทางภาคตะวันออกก็โดนโจมตีด้วย
เสียงระเบิดและเสียงไซเรนยังคงดังทั่วกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง ประชาชนพากันลงไปหลบภัยในสถานีรถไฟใต้ดินและห้องใต้ดินของอาคารบ้านเรือน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ซึ่งยืนกรานว่าเขาจะอยู่ในกรุงเคียฟไม่หลบหนีไปไหน ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า มีทารกเพศหญิงคนหนึ่งคลอดที่รถไฟใต้ดิน
เซเลนสกีคุยว่า ยูเครนสามารถขัดขวางแผนของรัสเซียที่ต้องการโค่นล้มตัวเขา ในข้อความวิดีโออีกชิ้นหนึ่ง ผู้นำยูเครนประกาศว่า "เราจะต่อสู้จนกว่าเราจะปลดปล่อยประเทศของเรา" พร้อมกันเขายังเรียกร้องให้ชาวรัสเซียช่วยกันกดดันปูตินให้ยุติสงครามนี้
ผู้คนนับหมื่นทั่วโลกออกมาชุมนุมตามเมืองต่างๆ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับยูเครน ส่วนภายในรัสเซีย ผู้สังเกตการณ์อิสระกล่าวว่า ชาวรัสเซียที่ออกมาประท้วงต่อต้านสงครามนับแต่วันพฤหัสบดี ถูกจับกุมไว้แล้วไม่ต่ำกว่า 3,052 คน เฉพาะวันเสาร์วันเดียวมีผู้ชุมนุมถูกจับกุม 467 คนใน 34 เมืองของรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า การโจมตีของรัสเซียตั้งแต่วันพฤหัสบดีสังหารชีวิตพลเรือนแล้ว 198 คน รวมถึงเด็ก 3 คน ขณะที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) ระบุว่า การรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซียส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตแล้ว 64 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 240 คน
ส่วนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) กล่าวว่า มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนแล้วมากกว่า 100,000 คน และอีกกว่า 160,000 คนพลัดถิ่นอยู่ภายในประเทศ
เซเลนสกีเรียกร้องต่ออันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ให้ถอดถอนสิทธิการลงมติของรัสเซียในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น เพื่อลงโทษการรุกรานยูเครน เขายังขอบคุณประเทศ "หุ้นส่วน" ทั้งหลายที่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มาช่วยเหลือ
รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีก 350 ล้านดอลลาร์ ส่วนเยอรมนีจะส่งอาวุธต่อต้านรถถัง 1,000 หน่วย และมิสไซล์สติงเกอร์ 500 ลูก มายังยูเครน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนนโยบายที่ยึดถือมายาวนานของเยอรมนีที่จะไม่ส่งออกอาวุธไปยังพื้นที่สงคราม ฝรั่งเศสก็ประกาศจะส่งอาวุธมาเพิ่มเช่นกัน
อีกทางหนึ่ง สหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศจะทำให้ทรัพย์สินของธนาคารแห่งชาติของรัสเซีย "เป็นอัมพาต" ด้วยการตัดธนาคารหลายแห่งของรัสเซียออกจากระบบธุรกรรมข้ามประเทศของ "สวิฟต์" หรือสมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก คำแถลงไม่ได้ระบุชื่อธนาคารว่ามีแห่งใดบ้าง แต่รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของนักการทูตรายหนึ่งว่า จะมีตลาดการธนาคารรัสเซียราว 70% ได้รับผลกระทบ
การตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสเรียกว่าเป็น "อาวุธนิวเคลียร์ทางการเงิน" เพราะจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจรัสเซีย จะส่งผลต่อการค้าและทำให้บริษัททั้งหลายดำเนินธุรกิจได้ยากขึ้น เคยมีเสียงเรียกร้องมาโดยตลอดให้ตัดรัสเซียออกจากระบบนี้ แต่ที่ผ่านมามีบางประเทศ เช่นเยอรมนี คัดค้านเนื่องจากกังวลว่ารัสเซียอาจทำให้ระงับการส่งก๊าซ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ของขวัญจากรัสเซีย ถึง 'คิม จอง อึน'
เริ่มจากเกาหลีเหนือส่งทหารไปสนับสนุนแนวรบของรัสเซียก่อน จากนั้นมอสโกจึงส่งมอบของขวัญพิเศษตอบแทนเปีย
รัสเซีย ขัดขวางมติหยุดยิงของยูเอ็นในซูดาน
นายพลสองคนซึ่งเป็นคู่แข่งแย่งชิงอำนาจ ต่อสู้กันในซูดานมาเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งแล้ว ขณะนี้รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสห
'โวโลดิมีร์ เซเลนสกี' ครุ่นคิดถึงบทสิ้นสุดของสงครามในปีหน้า
ที่นิวยอร์ก โวโลดิมีร์ เซเลนสกีเรียกร้องให้ตะวันตกสนับสนุนยูเครนเพิ่มเติม และสัญญาว่าจะยุติสงครามก่อนกำหนด โดยจะ
'ปูติน' เพิ่มกำลังทหารเป็นประมาณ 2.4 ล้านคน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินลงนามในกฤษฎีกา เพิ่มกำลังทหารอีกราว 180,000 นายในอีกไม่ช้านี้ เพื่อเสริมกองทัพรัสเซีย
ยูเครน ไม่ต้องการให้รัสเซียส่งผ่านก๊าซไปยังยุโรปอีกต่อไป
สัญญาระหว่างเคียฟและมอสโกที่ควบคุมการขนส่งก๊าซของรัสเซียผ่านยูเครนไปยังยุโรปจะสิ้นสุดในสิ้นปีนี้ มอสโกประกาศ
'ช้างศึก' เปิดชื่อ 23 นักเตะลุยอุ่นเครื่องปะทะ 'รัสเซีย-เวียดนาม' มีหน้าใหม่ 5 ราย
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศรายชื่อ 23 นักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดทำการแข่งขัน ฟุตบอลรายการ LPBANK CUP 2024 ที่ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 5-10 กันยายน 2567 ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ภายใต้การนำทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น