'ซีเรีย-เมียนมา' ประกาศตัวเข้าข้างรัสเซีย

ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด แห่งซีเรีย ต่อสายคุยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงความชื่นชมที่รัสเซียรุกรานยูเครน ระบุเป็นการแก้ไขประวัติศาสตร์ ขณะโฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาสนับสนุนกองทัพรัสเซียทำถูกแล้วเพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยอย่างยั่งยืน

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด (ซ้าย) จับมือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างพบกันที่ทำเนียบเครมลิน เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2564 (Getty Images)

รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ประธานาธิบดีอัสซาดโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 หนึ่งวันหลังจากปูตินสั่งเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครน ซึ่งเรียกเสียงประณามจากทั่วโลก

แถลงการณ์จากสำนักงานประธานาธิบดีซีเรียกล่าวว่า ประธานาธิบดีอัสซาดย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการแก้ไขประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง และฟื้นฟูสมดุลในระเบียบโลกภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

อัสซาดยังกล่าวกับปูตินด้วยว่า ซีเรียยืนอยู่ข้างรัสเซียโดยอ้างอิงจากความเชื่อมั่นที่ว่าเป็นจุดยืนที่ถูกต้อง และเพราะการเผชิญหน้ากับการขยายตัวของนาโตเป็นสิทธิของรัสเซีย นอกจากนี้ ชาติตะวันตกต้องรับผิดชอบต่อความโกลาหลวุ่นวายและการนองเลือด จากการที่ใช้กลอุบายสกปรกสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในซีเรียและพวกนาซีในยูเครน

ผู้นำรัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญของอัสซาด เขาตัดสินใจแทรกแซงสงครามกลางเมืองของซีเรียเมื่อปี 2558 โดยเปิดฉากโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนกองทัพของอัสซาดและส่งทหารมากกว่า 63,000 นายมายังซีเรีย การแทรกแซงของรัสเซียเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในสงครามนี้ ทำให้กองทัพอัสซาดชิงคืนดินแดนที่สูญเสียให้ฝ่ายกบฏกลับคืนมาได้

ประเมินกันว่า สงครามซีเรียที่เริ่มต้นจากการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2554 ทำให้มีคนล้มตายเกือบ 500,000 คน และพลัดที่อยู่หลายล้านคน

แฟ้มภาพ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา (ซ้าย) จับมือกับเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ระหว่างการประชุมทางเทคนิคและการทหารระหว่างประเทศ อาร์มี 2018 ที่รัสเซีย เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2561 (Getty Images)

ส่วนจุดยืนของรัฐบาลทหารเมียนมา มีแถลงการณ์จากซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ว่า กองทัพรัสเซียได้ดำเนินการในสิ่งที่ชอบด้วยเหตุผล เพื่อความยั่งยืนของอำนาจอธิปไตยของรัสเซีย และรัสเซียได้แสดงให้โลกเห็นตำแหน่งของรัสเซียในฐานะมหาอำนาจโลก

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญและผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่แก่พวกนายพลเมียนมา และมักคอยปกป้องเมียนมาในองค์การสหประชาชาติ รายงานของผู้เชี่ยวชาญอิสระที่จัดทำรายงานให้ยูเอ็นเผยแพร่ในสัปดาห์นี้กล่าวว่า รัสเซีย และจีน พันธมิตรสำคัญของเมียนมาอีกชาติหนึ่ง ยังคงส่งมอบอาวุธให้แก่รัฐบาลทหารชุดนี้ รวมถึงเครื่องบินขับไล่และยานหุ้มเกราะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บึ้มสนั่น! ขวางเลือกตั้งเมียนมา ตึกพรรคหนุนกองทัพพังยับ

ที่จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า เมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2568 . เวลาประมาณ 21.15 น. ที่ผ่านมา และ เวลา 00.48 น เช้ามืดวันที่ 28 ธันวาคม 2568. ได้เกิดการระเบิดขึ้น 4 ครั้ง

สถานการณ์ในตะวันออกกลางจะยังคงตึงเครียดต่อไปในปี 2026

การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา การเปลี่ยนแปลงอำนาจในซีเรียและเลบานอน การเลือกตั้งในอิสราเอล: สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงเปราะบางและตึงเครียดในปี 2026

รัสเซียพร้อมหนุนเวเนซุเอลาอย่างไม่มีเงื่อนไข ในความขัดแย้งกับสหรัฐฯ

ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา มอสโกได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการากัสอย่างไม่มีเงื่อนไข คำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์โดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศ หลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ-รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย และอีวาน กิล-รัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลา

3 ชาติผนึกกำลังทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุบ 'KK Park - ชเวก๊กโก' ราบคาบ เตรียมหิ้วตัวกลับจีนล็อตใหญ่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอ

ทำไม ‘ดอนบาส’ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยูเครน

อนาคตของภูมิภาคดอนบาสยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาเรื่องยูเครนในกรุงเบอร์ลิน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน-ผู้นำเครมลิน เรี