'เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์' ทรงติดไวรัสโควิดซ้ำเป็นรอบที่ 2

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ทรงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดี และขณะนี้ทรงอยู่ระหว่างการแยกกักพระองค์

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (ขวา) มีพระราชปฏิสันถารกับเอียน รัช อดีตนักฟุตบอลชาวเวลส์ ระหว่างงานเลี้ยงที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 (Photo by Tristan Fewings / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงานว่า เพจทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเจ้าชายประกาศข่าวนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า "เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก และขณะนี้ทรงกำลังแยกกักพระองค์"

พระตำหนักคลาเรนซ์กล่าวว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชโอรสองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีหมายกำหนดการจะต้องเสด็จฯ ไปเปิดอนุสาวรีย์ในเมืองวินเชสเตอร์ ทางใต้ของอังกฤษ ในวันเดียวกันนี้ แต่พระองค์ต้องยกเลิกการเสด็จกะทันหัน

แหล่งข่าวใกล้ชิดราชวงศ์ที่ไม่เปิดเผยตัวตนกล่าวกับสำนักข่าวเพรสส์แอสโซซิเอชันว่า เจ้าชายเข้าเฝ้าฯ พระราชมารดาเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่สมเด็จพระราชินีซึ่งมีพระชนมพรรษา 95 พรรษา ไม่ทรงแสดงพระอาการประชวรใดๆ

สมเด็จพระราชินีทรงแยกพระองค์อยู่ใน "บับเบิล" ที่ปราสาทวินด์เซอร์ตั้งแต่เริ่มเกิดโรคระบาดนี้เมื่อต้นปี 2563 เนื่องจากความเจริญพระชนมายุที่ทำให้มีความเสี่ยง ช่วงไม่นานมานี้พระองค์มีปัญหาพระพลานามัยที่ทำให้ต้องทรงงดพระราชกรณียกิจตามคำแนะนำของแพทย์ แต่พระองค์กลับมาทรงงานอีกครั้งในโอกาสฉลองการครองราชสมบัติครบ 70 ปี ที่เริ่มต้นการฉลองในสัปดาห์ที่ผ่านมา

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งมีพระชนมายุ 73 พรรษา ทรงเคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 และต้องแยกกักพระองค์นานประมาณ 1 สัปดาห์ที่ปราสาทบาลมอรัลในสกอตแลนด์

เมื่อวันพุธ เจ้าชายทรงพบกับบุคคลหลายคนในงานเลี้ยงรับรองที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีคลัง ริชี สุนาค และรัฐมนตรีมหาดไทย พริตี พาเทล ของอังกฤษ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดข้อมูล ‘ไวรัสโควิด’ สร้างได้ในห้องทดลอง มีจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018

การสร้างไวรัสใหม่ชนิดนี้จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่จะแพร่และเกิดโรคระบาดในมนุษย์ได้ทั้งสิ้น และสามารถที่จะสร้างวัคซีนให้มนุษย์ก่อนได้

‘หมอธีระ’ ข้องใจตัวเลขโควิด สัปดาห์ก่อนพุ่งอาทิตย์นี้ลดฮวบ ไม่ใช่เรื่องปกติ

สัปดาห์ก่อน ตัวเลขนอนรพ.พุ่งขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านั้นถึง 78% แต่สัปดาห์ล่าสุดนี้ ลดลงฮวบฮาบจากสัปดาห์ก่อนถึง 57.7% ส่วนตัวคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ควรต้อง explore