รัฐประหารล่ม ปธน.กินีบิสเซารอดกระสุนปืน ดวลดับ 6 ศพ

โรครัฐประหารระบาดในแอฟริกาตะวันตก ประธานาธิบดีอูมาโร ซิสโซโก เอ็มบาโล ของกินีบิสเซารอดตาย หลังกลุ่มมือปืนดวลเดือดกับหน่วยองครักษ์นานกว่า 5 ชั่วโมงเมื่อวันอังคาร คนร้ายและองครักษ์ดับรวม 6 ศพ ประชาคมแอฟริกาประณามการก่อรัฐประหารล้มเหลว แม้เอ็มบาโลจะโยงเป็นฝีมือแก๊งค้ายา

ประเทศแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้มีประชากรเพียง 2 ล้านคน เผชิญทั้งการคอร์รัปชันและความไร้เสถียรภาพ โดยเคยเกิดการก่อรัฐประหารหรือความพยายามก่อรัฐประหารรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วนับแต่ได้รับเอกราชจากโปรตุเกสเมื่อปี 2517 และมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่อยู่ครบเทอมเพียงชุดเดียวเท่านั้น

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 กล่าวว่า ความไม่สงบครั้งล่าสุดเริ่มต้นเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มมือปืนพร้อมอาวุธหนักล้อมอาคารทำเนียบรัฐบาลในกรุงบิสเซา ระหว่างที่ประธานาธิบดีเอ็มบาโลและนายกรัฐมนตรีกำลังประชุมคณะรัฐมนตรีอยู่ การยิงปะทะกับหน่วยอารักขายืดเยื้อนานกว่า 5 ชั่วโมงจึงสงบลง

เอ็มบาโลประกาศเมื่อคืนวันอังคารว่า รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ตัวเขาไม่ได้รับอันตรายจากแผนการล้างบางรัฐบาลของเขา ซึ่งเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มที่ต่อต้านการปราบปรามยาเสพติดและการคอร์รัปชัน ไม่ใช่ความพยายามก่อรัฐประหารยึดอำนาจโดยทหาร

"มันไม่ใช่การก่อรัฐประหาร แต่เป็นความพยายามฆ่าประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทุกคน" ประธานาธิบดีวัย 49 ปีกล่าว "การโจมตีครั้งนี้เตรียมการและจัดตั้งมาเป็นอย่างดี และอาจเกี่ยวโยงกับพวกที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด"

รายงานของสื่อทางการเปิดเผยว่า การยิงปะทะกันทำให้มีคนเสียชีวิต 6 คน เป็นคนร้าย 4 คน และสมาชิกหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี 2 คน

ทั้งสหภาพแอฟริกาและประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ที่กินิบิสเซาเป็นสมาชิกด้วย รวมถึงฝรั่งเศส ต่างประณามสิ่งที่ทั้งสององค์การนี้เรียกว่า "ความพยายามก่อรัฐประหาร"

เหตุการณ์ที่นี่ก่อความวิตกว่า กินีบิสเซาจะติดโรครัฐประหารในภูมิภาคนี้ด้วย ซึ่งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาเกิดการยึดอำนาจในหลายประเทศ รวมถึง 2 ครั้งในมาลีเมื่อปี 2563, ครั้งหนึ่งในกินีเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่กองทัพบูร์กินาฟาโซยึดอำนาจจากประธานาธิบดีโรช มาร์ก คริสเตียน คาโบเร

ประเทศยากจนแห่งนี้ตั้งอยู่ติดชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก โดยถูกขนาบด้วยกินีทางทิศใต้และเซเนกัลทางทิศเหนือ ความไร้เสถียรภาพและการคอร์รัปชันทำให้กินีบิสเซากลายเป็นศูนย์กลางของการส่งผ่านโคเคนจากลาตินอเมริกาไปยังยุโรป

สถานการณ์ในวันพุธ ใจกลางกรุงบิสเซากลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว โดยธนาคารและร้านค้าเปิดทำการ แต่ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนและปิดกั้นถนนสายหลักที่เชื่อมกลางเมืองกับสนามบิน ซึ่งตัดผ่านทำเนียบรัฐบาลที่เกิดการยิงปะทะเมื่อวันอังคาร.