รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศยุบสภา ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคมซึ่งจะเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง

นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ (Photo by Nhac NGUYEN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 15 เมษายน 2568 กล่าวว่า รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศยุบสภา และจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในวันที่ 3 พฤษภาคม
เมื่อปีที่แล้ว ลอว์เรนซ์ หว่องสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากลี เซียนลุงซึ่งเป็นบุตรชายของลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ พร้อมเปิดศักราชใหม่ของผู้นำประเทศที่ไม่ได้มาจากตระกูลลี
แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า "ประธานาธิบดีธาร์แมน แชนมูการัตนัมประกาศยุบสภาในวันอังคารที่ 15 เมษายน 2025 ตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง"
โดยกรมการเลือกตั้งกำหนดให้วันเสนอชื่อผู้สมัครเป็นวันที่ 23 เมษายน และประกาศให้วันลงคะแนนเสียงเป็นวันที่ 3 พฤษภาคม
การเลือกตั้งครั้งนี้มีที่นั่งทั้งหมด 97 ที่นั่ง ซึ่งมากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน 4 ที่นั่ง โดยที่นั่งส่วนใหญ่มาจากระบบการลงคะแนนเสียงแบบกลุ่ม ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวหาว่าเป็นคะแนนจัดตั้งเพื่อสนับสนุนพรรคกิจประชาชน (พีเอพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 1959
คาดว่าพรรคฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคแรงงานสิงคโปร์ซึ่งเคยสร้างความตกตะลึงให้กับประเทศเมื่อคว้ามาได้ถึง 10 ที่นั่งจากทั้งหมด 93 ที่นั่งที่ลงแข่งขันในการเลือกตั้งปี 2020 จะสร้างโมเมนตัมดังกล่าวและรุกคืบต่อไปได้อีกในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เช่นเดียวกับการท้าทายจากพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็กอื่นๆ
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นศึกครั้งแรกของพรรคกิจประชาชนที่กำลังครองอำนาจอยู่ภายใต้การนำของลอว์เรนซ์ หว่อง และเป็นบททดสอบสำคัญที่เกิดขึ้นในขณะที่สงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คุกคามระเบียบโลกซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์
แม้ว่าทรัมป์จะกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากสิงคโปร์เป็นอัตราพื้นฐาน 10% แต่สิงคโปร์ก็ยังคงเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอันเนื่องมาจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศอื่นในอัตราที่สูงกว่ามาก เนื่องจากสิงคโปร์พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก
สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พบว่าตนเองต้องเผชิญความเสี่ยงหลังจากที่ทรัมป์กำหนดภาษีศุลกากรกวาดล้างต่อประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงัก และเกิดความกลัวว่าสหรัฐฯจะเปิดสงครามการค้าเต็มรูปแบบกับจีน
เมื่อวันจันทร์ กระทรวงการค้าของสิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2025 ลงเหลือระหว่าง 0-2% จาก 1-3% ก่อนหน้านี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีหว่องได้ส่งคำเตือนที่ชัดเจนต่อรัฐสภาว่า "ยุคของโลกาภิวัตน์ตามกฎเกณฑ์และการค้าเสรีได้สิ้นสุดลงแล้ว"
"เราเสี่ยงที่จะถูกบีบให้หลุดจากการแข่งขัน, ตกขอบ และถูกทิ้งไว้ข้างหลัง" เขากล่าว
หว่อง วัย 52 ปี กำลังแสวงหาอำนาจที่มั่นคงจากการเลือกตั้ง เพื่อนำพาประเทศผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และชัยชนะถล่มทลายจะทำให้มือของเขาและรัฐบาลของเขาแข็งแกร่งขึ้นในการกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและเจรจากับประเทศอื่นๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
จับตา ‘ลูกชายเดชอิศม์’ กลับลำ ทิ้ง ปชป. ซบกล้าธรรม
พรรคกล้าธรรมขยับต่อเนื่อง หลัง “วงศ์วชร-บารมี ขาวทอง” สมัครสมาชิกและเตรียมลงสนาม สงขลา ล่าสุดมีสัญญาณว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ขาวท
นับหนึ่งสนามเลือกตั้ง 69 สำรวจบ้านเล็ก-บ้านใหญ่ บนแผนที่ภูมิใจไทย
หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 การเมืองไทยเข้าสู่ช่วงเตรียมพร้อมอย่างเป็นทางการ

