เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียพบกันที่ซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือเรื่องการหยุดยิงบางส่วนในสงครามยูเครน โดยก่อนหน้านี้หนึ่งวันเพิ่งมีการหารือระหว่างสหรัฐฯและยูเครนด้วยเช่นกัน
โรงแรม Ritz-Carlton ในกรุงริยาดซึ่งเป็นสถานที่เจรจาระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ เพื่อพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน เมื่อวันที่ 23 มีนาคม (Photo by Fayez Nureldine / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 กล่าวว่า การเจรจาหยุดยิงในสงครามยูเครนยังคงดำเนินต่อไปโดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นคนกลางที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องในขณะนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังผลักดันให้ยุติสงครามที่ดำเนินมานานสามปีโดยเร็ว และหวังว่าการเจรจาที่กรุงริยาดจะช่วยปูทางไปสู่การบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเสนอแผนที่แตกต่างกันสำหรับการหยุดยิงชั่วคราวและการโจมตีข้ามพรมแดนยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เดิมทีมีแผนที่จะดำเนินการพร้อมกันเพื่อให้เกิดการเจรจาระหว่างสองประเทศ โดยที่สหรัฐฯ เดินทางไปมาระหว่างคณะผู้แทนต่างๆ แต่ก็ยังทำได้แค่เจรจาไปทีละครั้ง
การประชุมระหว่างทีมยูเครนซึ่งนำโดยรุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหม และทีมสหรัฐฯ สิ้นสุดลงเมื่อคืนวันอาทิตย์
อูเมรอฟกล่าวบนโซเชียลมีเดียว่า "การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมุ่งเน้นเฉพาะประเด็นสำคัญๆ รวมถึงเรื่องพลังงาน" และเสริมว่ายูเครนกำลังทำงานเพื่อให้เป้าหมายของสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน เป็นจริง
สตีฟ วิทคอฟฟ์ ที่ปรึกษาพิเศษของทรัมป์แสดงความหวังว่าข้อตกลงใดๆ ที่บรรลุผลจะปูทางไปสู่การหยุดยิงเต็มรูปแบบ
"ผมคิดว่าคุณจะได้เห็นความคืบหน้าที่แท้จริงในซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อตกลงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการหยุดยิงทางเรือระหว่างทั้งสองประเทศในทะเลดำ และจากจุดนั้น คุณจะเริ่มมีการหยุดยิงยิงเต็มรูปแบบโดยธรรมชาติ" เขากล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์
แต่ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียลดความคาดหวังในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วลง
"เราเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางนี้เท่านั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลมอสโกกล่าวกับโทรทัศน์แห่งรัฐของรัสเซีย
เขากล่าวว่ามีคำถามค้างคาอยู่มากมายว่าการหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้นนั้นจะดำเนินการได้อย่างไร
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินปฏิเสธข้อเรียกร้องร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนที่ขอให้หยุดการโจมตีทันทีเป็นเวลา 30 วัน โดยเสนอให้หยุดการโจมตีเฉพาะที่โรงไฟฟ้าเท่านั้น
"ยังมีการเจรจาที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า" เปสคอฟกล่าวในการสัมภาษณ์ที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย
เปสคอฟกล่าวว่าจุดเน้นหลักในการเจรจากับสหรัฐฯ คือการกลับมาดำเนินการตามข้อตกลงธัญพืชทะเลดำปี 2022 อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกพืชผลของยูเครนเดินทางผ่านทะเลดำอย่างปลอดภัย
"เราตั้งใจที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงของประธานาธิบดีปูตินในการกลับมาดำเนินโครงการที่เรียกว่า "โครงการทะเลดำ" อีกครั้ง และผู้เจรจาของเราก็พร้อมที่จะหารือถึงรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับปัญหานี้" เปสคอฟกล่าว
รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงที่ตุรเคียและสหประชาชาติเป็นตัวกลางในปี 2023 โดยกล่าวหาว่าชาติตะวันตกล้มเหลวในการรักษาคำมั่นสัญญาที่จะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและปุ๋ยของรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนเคยบอกกับเอเอฟพีว่า รัฐบาลเคียฟจะเสนอการหยุดยิงที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการหยุดโจมตีโรงงานพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐาน และการโจมตีทางเรือ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากโจมตีด้วยโดรนอีกครั้งก่อนการเจรจา
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าการโจมตีด้วยโดรนของรัสเซียเมื่อคืนวันเสาร์ทำให้พลเรือนในกรุงเคียฟเสียชีวิต 3 ราย รวมถึงเด็กหญิงวัย 5 ขวบและผู้เป็นพ่อ
เซเลนสกีเรียกร้องให้พันธมิตรร่วมกดดันรัสเซียอีกครั้ง
"จำเป็นต้องมีการตัดสินใจและแรงกดดันใหม่ต่อรัสเซียเพื่อยุติการโจมตีและสงครามครั้งนี้" เขาโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์
รัฐบาลมอสโกเข้าสู่การเจรจาที่ซาอุดิอาระเบีย หลังจากปรับความเข้าใจกับรัฐบาลวอชิงตันภายใต้การนำของทรัมป์
เปสคอฟกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า "ศักยภาพสำหรับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในหลากหลายด้านระหว่างประเทศของเรานั้นไม่สามารถพูดเกินจริงได้"
"เราอาจไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราควรละทิ้งประโยชน์ร่วมกัน" เขากล่าวเสริม.
