ทรัมป์ลงนามคำสั่งที่อาจนำไปสู่การ 'ยุบ' กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งที่มุ่งเป้ายุบกระทรวงศึกษาธิการ ตามเจตนาที่ต้องการให้รัฐต่างๆ บริหารโรงเรียนได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลกลาง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ชูคำสั่งฝ่ายบริหารหลังจากลงนามในห้องอีสต์ของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 20 มีนาคม (Photo by Mandel NGAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารครั้งล่าสุดและประกาศว่าจะยกเลิกหน่วยงานกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นเจตนาเดิมของพรรครีพับลิกันที่ต้องการให้รัฐต่างๆ สามารถบริหารโรงเรียนได้ตามระบบของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลกลาง

ทรัมป์ยิ้มขณะชูคำสั่งที่ลงนามแล้วขึ้นท่ามกลางเด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะในห้องอีสต์ของทำเนียบขาว โดยเขาลงนามในพิธีพิเศษพร้อมกับส่งคำสั่งดังกล่าวให้เด็กๆ

ทรัมป์กล่าวว่า คำสั่งนี้จะทำให้กระบวนการยุบกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางเริ่มได้เสียที

"เราจะปิดกระทรวงศึกษาธิการให้เร็วที่สุด เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อเราเลย เราจะคืนการศึกษาให้กับรัฐที่กระทรวงควรตั้งอยู่" ประธานาธิบดีกล่าว

กระทรวงศึกษาธิการซึ่งก่อตั้งในปี 1979 ไม่สามารถถูกยกเลิกได้หากไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา แต่คำสั่งของทรัมป์อาจมีอำนาจที่จะตัดงบประมาณและลดการจ้างงานเจ้าหน้าที่ได้

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการสานต่อคำมั่นสัญญาในการหาเสียงประการหนึ่งของทรัมป์และเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่รุนแรงที่สุดในการปฏิรูปรัฐบาลอย่างสุดขั้วที่ทรัมป์กำลังดำเนินการอยู่ด้วยความช่วยเหลือของอีลอน มัสก์

คำสั่งนี้สั่งให้ลินดา แม็กมาฮอน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกในการยุบหน่วยงานกระทรวงศึกษาธิการและคืนอำนาจด้านการศึกษาให้กับรัฐต่างๆ

พรรคเดโมแครตและนักวิชาการการศึกษาออกมาประณามการเคลื่อนไหวดังกล่าวทันที

ชัค ชูเมอร์ สมาชิกอาวุโสของรัฐสภาจากพรรคเดโมแครต เรียกการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการแย่งชิงอำนาจอย่างเผด็จการ และเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ทำลายล้างและเลวร้ายที่สุดที่โดนัลด์ ทรัมป์เคยทำมา

ทรัมป์มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อประหยัดงบประมาณและปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าประเทศกำลังตามหลังยุโรปและจีน

อย่างไรก็ตาม การศึกษาเป็นสนามรบในสงครามวัฒนธรรมของอเมริกามานานหลายทศวรรษ และพรรครีพับลิกันต้องการที่จะโค่นอำนาจรัฐบาลกลางในเรื่องนี้มานานแล้ว

การที่ทรัมป์แต่งตั้งแม็กมาฮอน อดีตซีอีโอของเวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากระทรวงนี้ ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าวันเวลาของกระทรวงนี้ใกล้จะหมดลงแล้ว

ประธานาธิบดีกล่าวในพิธีลงนามว่า "หวังว่าเธอจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนสุดท้ายของเรา"

แม็กมาฮอนซึ่งได้ตัดสินใจลดจำนวนเจ้าหน้าที่ของกระทรวงลงครึ่งหนึ่งหลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ทรัมป์ต้องการนำเงินเหล่านั้นกลับคืนสู่รัฐต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งระบบราชการอย่างวอชิงตัน

ระหว่างการหาเสียง ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะยุบกระทรวงและโอนอำนาจไปยังรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ในลักษณะเดียวกับที่เกิดขึ้นกับสิทธิในการทำแท้ง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการน่าจะยังคงอยู่ไปอีกระยะหนึ่งเพื่อจัดการกับหน้าที่สำคัญบางประการ รวมถึงเงินกู้และเงินช่วยเหลือบางส่วนสำหรับนักเรียนที่มีรายได้น้อย และอาจจะมีขนาดเล็กกว่าปัจจุบันมาก

โดยปกติแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ มีบทบาทจำกัดในด้านการศึกษา โดยมีเงินทุนสำหรับโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาเพียงประมาณ 13% เท่านั้นที่มาจากรัฐบาลกลาง ส่วนที่เหลือได้รับเงินทุนจากรัฐและชุมชนท้องถิ่น

ถึงกระนั้น เงินทุนของรัฐบาลกลางมีค่าอย่างยิ่งสำหรับโรงเรียนที่มีรายได้น้อยและนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ และรัฐบาลกลางก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการบังคับใช้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่สำคัญสำหรับนักเรียน

ทั้งนี้ ทรัมป์, อีลอน มัสก์ และกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ได้ทำการยุบหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ หลายแห่งแล้ว ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานเหล่านั้นต้องปรับลดปริมาณงานและจำนวนพนักงานเพื่อความอยู่รอด แม้มีการคัดค้านจากผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางซึ่งเห็นว่าการผลักดันดังกล่าวอาจเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ.

เพิ่มเพื่อน