เสียชีวิตครั้งใหม่ 330 ราย อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซากดดันฮามาสปล่อยตัวประกัน

อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาอย่างหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่ตกลงหยุดยิงเมื่อเดือนมกราคม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 330 ราย พร้อมให้คำมั่นจะสู้ต่อไปจนกว่าตัวประกันทั้งหมดจะกลับคืนมา

หญิงชาวกาซานั่งร้องไห้อยู่บนซากปรักหักพังของบ้านที่ถูกทำลายจากการโจมตีของอิสราเอล ภายในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต ใจกลางฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม (Photo by Eyad BABA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 กล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงรอบใหม่ที่ไม่มีวี่แววเกิดขึ้นท่ามกลางความคาราคาซังของสงครามในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ทำให้การสู้รบครั้งใหม่กลับมาปะทุรุนแรงอีกครั้ง

กองทัพอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดในฉนวนกาซา สร้างความเสียหายรุนแรงและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 330 รายซึ่งรายงานระบุว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง, เด็ก และผู้สูงอายุ

ทำเนียบขาวยืนยันว่าอิสราเอลได้ปรึกษาหารือกับฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้วก่อนเริ่มการโจมตี

สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูกล่าวว่าปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะปล่อยตัวตัวประกันอิสราเอล รวมทั้งปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดที่ได้รับจากสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจากผู้ไกล่เกลี่ย

"อิสราเอลจะดำเนินการกับกลุ่มฮามาสด้วยกำลังทหารที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป" แถลงการณ์ระบุ

เจ้าหน้าที่อิสราเอลแจ้งต่อเอเอฟพีว่าปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น และคาดว่าจะขยายออกไปไกลกว่าการโจมตีทางอากาศ

ในแถลงการณ์ตอบโต้ กลุ่มฮามาสกล่าวว่า "เนทันยาฮูและรัฐบาลหัวรุนแรงของเขาได้ตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง"

"การตัดสินใจของเนทันยาฮูที่จะเริ่มต้นสงครามอีกครั้งนั้นถือเป็นการตัดสินใจสละชีวิตนักโทษของตนเองและลงโทษประหารชีวิตพวกเขา" กลุ่มฮามาสกล่าว และเสริมว่านายกรัฐมนตรีอิสราเอลใช้ความขัดแย้งเป็น "เรือชูชีพ" ทางการเมืองเพื่อให้ลอยตัวได้ท่ามกลางวิกฤตในประเทศ

การหยุดยิงระยะแรกซึ่งมีกาตาร์, อียิปต์ และสหรัฐอเมริกาเป็นตัวกลาง มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 มกราคม โดยยุติการสู้รบส่วนใหญ่ในฉนวนกาซาที่ดำเนินมานานกว่า 15 เดือน ซึ่งเกิดจากการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023

ระยะแรกสิ้นสุดลงเมื่อต้นเดือนมีนาคม และแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะงดเว้นจากสงครามเต็มรูปแบบตั้งแต่นั้นมา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของการเจรจาหยุดยิง

ในความเป็นจริงแล้ว อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาเกือบทุกวัน แต่ไม่ได้มากเท่ากับปฎิบัติการล่าสุดนี้

ในช่วงเช้าของวันอังคาร กองทัพอิสราเอลกล่าวว่ากำลังโจมตีเป้าหมายก่อการร้ายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาแบบครอบคลุมทั้งในกาซาซิตีและข่าน ยูนิส

หน่วยงานป้องกันพลเรือนของฉนวนกาซารายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคนจากเหตุการณ์โจมตีทางอากาศ และการยิงกระสุนปืนใหญ่

ขณะที่อิสราเอลสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกาซา และรัฐบาลกล่าวว่าจะเพิ่มการสู้รบกับกลุ่มฮามาส

แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่ามีการปรึกษาหารือกับฝ่ายบริหารของทรัมป์ก่อนปฏิบัติการของอิสราเอลในวันอังคาร

"ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ชี้แจงไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า กลุ่มฮามาส, กลุ่มฮูตี, อิหร่าน และกลุ่มอื่นๆ ที่ต้องการก่อการร้าย ไม่เพียงแต่ในอิสราเอลเท่านั้น แต่รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย จะต้องพบกับราคาที่ต้องจ่าย นั่นคือ หายนะจะมาเยือนอย่างแน่นอน" ลีวิตต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์

ทั้งนี้ ในช่วงแรกของข้อตกลงสงบศึก กลุ่มฮามาสปล่อยตัวตัวประกัน 33 คน รวมถึงผู้เสียชีวิต 8 ราย และอิสราเอลปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ประมาณ 1,800 คน

นับจากนั้น ฮามาสได้เรียกร้องให้มีการเจรจาในระยะที่สองอย่างต่อเนื่อง

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้ร่างกรอบการเจรจาระยะที่สองซึ่งเกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด, การถอนกำลังอิสราเอลทั้งหมดที่เหลืออยู่ในฉนวนกาซา และการหยุดยิงถาวร

อย่างไรก็ตาม อิสราเอลพยายามขยายระยะเวลาการเจรจาระยะแรกออกไปจนถึงกลางเดือนเมษายน โดยยืนกรานว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระยะที่สองจะต้องรวมถึง "การปลดอาวุธทั้งหมด" ในฉนวนกาซา และการขับไล่กลุ่มฮามาสซึ่งควบคุมพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2007

การเจรจายังคงติดขัด และอิสราเอลได้ตัดความช่วยเหลือและไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าวระหว่างที่การสงบศึกไปสู่ทางตัน.

เพิ่มเพื่อน