‘ทรัมป์’ จัดเที่ยวบินเนรเทศไปเอลซัลวาดอร์

ภาพเอกสารแจกที่เผยแพร่โดยสำนักประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นการมาถึงของผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกของแก๊งเตรน เด อารากัว ที่ศูนย์คุมขังผู้ก่อการร้าย หรือเซคอต (CECOT) ในเมืองเตโกลูกา ห่างจากซานซัลวาดอร์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 74 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา ติดตั้งระบบการเฝ้าระวังด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และออกแบบมาเพื่อที่เป็นที่คุมขังอาชญากรมากถึง 40,000 คน – Photo by Handout / El Salvador’s Presidency Press Office / AFP

สหรัฐฯ ส่งตัวผู้คนอย่างน้อย 250 คนไปยังเอลซัลวาดอร์ภายใต้กฎสงครามโบราณ แม้ว่าผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางจะสั่งห้ามปฏิบัติก็ตาม ขณะเดียวกันฝ่ายบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

กฎหมายดังกล่าวถูกใช้ครั้งสุดท้ายเพื่อกักขังชาวเยอรมันและชาวญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง แต่เวลานี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับนำมาใช้ดำเนินการกับกลุ่มอาชญากรเวเนซุเอลา โดยใช้ “พระราชบัญญัติศัตรูต่างด้าว” ปี 1798 เนรเทศผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นสมาชิกของแก๊ง ‘เตรน เด อารากัว’ กลุ่มอาชญากรเวเนซุเอลา

จากนั้นทำเนียบขาวได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า ผู้ก่อการร้ายร่วม 300 คนจากแก๊งเตรน เด อารากัวถูกส่งตัวกลับประเทศตามคำสั่งของประธานาธิบดี ต้องขอบคุณการทำงานที่ยอดเยี่ยมของกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ “สัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยอง” เหล่านี้ถูกนำตัวไปยังเอลซัลวาดอร์ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อชาวอเมริกันได้อีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้แชร์วิดีโอเกี่ยวกับผู้ต้องขังเหล่านี้ขณะถูกนำตัวออกไปภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์แจกแจงจำนวนผู้ถูกเนรเทศดังนี้… จากผู้ถูกเนรเทศ 261 คน มี 137 คนอยู่ภายใต้ “พระราชบัญญัติศัตรูต่างด้าว” ปี 1798 คนที่เหลือถูกเนรเทศตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง รวมถึง 23 คนจากเอลซัลวาดอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับแก๊ง MS-13

ตามกฎหมายแล้ว การปฏิบัติดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางในวอชิงตันมีคำสั่งให้ยุติการเนรเทศชั่วคราวเมื่อวันเสาร์ โดยกล่าวว่าเขาไม่เชื่อว่ากฎหมายดังกล่าวถือเป็นเหตุผลสำหรับการกระทำของประธานาธิบดีได้

นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่าเครื่องบินเหล่านี้อาจอยู่ในเอลซัลวาดอร์แล้วขณะที่ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางเข้าแทรกแซง หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวยังอ้างถึงโพสต์บนโซเชียลมีเดียของประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ซึ่งแชร์ประกาศคำตัดสินของผู้พิพากษา และเขียนว่า “อุ๊ปส์! สายเกินไปแล้ว” นอกจากนี้เขายังกดส่งอิโมจิหัวเราะอีกด้วย รูบิโอ-รัฐมนตรีต่างประเทศโพสต์บน X ว่า “ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและมิตรภาพของคุณ ประธานาธิบดีบูเคเล”

ประธานาธิบดีทรัมป์เองก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเนรเทศเมื่อคืนวันจันทร์ เขาไม่ต้องการบอกว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ แต่เลือกที่จะอ้างถึงทนายของรัฐบาล “ผมบอกคุณได้อย่างหนึ่ง พวกเขาเป็นคนไม่ดี” ทรัมป์กล่าวกับสื่อบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน

แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกหญิงของทรัมป์เคยเน้นย้ำในแถลงการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าการเนรเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว “ผู้พิพากษาคนเดียวในเมืองเดียวไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของเครื่องบินได้ …มันเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้ายต่างชาติที่ถูกเคลื่อนย้ายออกจากแผ่นดินอเมริกา” เลวิตต์กล่าว ปกติแล้วศาลทั่วไปและศาลรัฐบาลกลางไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายในการสั่งการประธานาธิบดีในเรื่องการต่างประเทศ

พระราชบัญญัติศัตรูต่างด้าวอนุญาตให้ประธานาธิบดีหลีกเลี่ยงกระบวนการศาลในการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติเพื่อกักขังและเนรเทศคนต่างด้าวจาก “ประเทศศัตรู” ตามรายงานของสื่อที่สอดคล้องกัน สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสหรัฐอเมริกาได้ประกาศสงครามกับรัฐศัตรู หรือหากประธานาธิบดีเห็นว่าประเทศถูกคุกคามด้วยการ “รุกรานหรือการโจมตีแบบนักล่า” ซึ่งทรัมป์อ้างถึงอย่างหลัง

ประธานาธิบดีโต้แย้งว่า แก๊งเตรน เด อารากัวกำลังดำเนิน “การกระทำที่ไม่เป็นมิตร” และ “ทำสงครามที่ไม่ปกติ” ต่อดินแดนของสหรัฐฯ อีกทั้งยังโยงว่าเป็นปฏิบัติการตามคำสั่งของรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร เผด็จการของเวเนซุเอลาด้วย

เรือนจำขนาดใหญ่ในเอลซัลวาดอร์ที่สร้างขึ้นภายใต้ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล เพื่อต่อสู้กับแก๊งอาชญากรที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เรือนจำเซคอต สร้างแล้วเสร็จเมื่อสองปีที่แล้ว สามารถกักขังนักโทษได้ประมาณ 40,000 คน ในเวลานั้นรูปภาพของนักโทษใส่กุญแจมือในชุดกางเกงขาสั้นสีขาววิ่งเท้าเปล่าเข้าไปในเรือนจำถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก เป็นผลให้อัตราการฆาตกรรมมีจำนวนลดลงอย่างมากในเอลซัลวาดอร์ แต่อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนยังพูดถึงการจับกุมตามอำเภอใจและสภาพเรือนจำยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่

ปฏิบัติการครั้งนี้เอลซัลวาดอร์เองก็ยังชั่งใจถึงความคุ้มค่า เพราะสหรัฐอเมริกาจะจ่ายเพียง 6 ล้านดอลลาร์เป็นค่าที่พักพิงสำหรับผู้ถูกเนรเทศ สื่อสหรัฐฯ รายงาน เอกสารจากกระทรวงต่างประเทศของเอลซัลวาดอร์ยังระบุด้วยว่า ผู้ถูกเนรเทศจะพำนักในเรือนจำเป็นเวลาหนึ่งปีจนกว่าสหรัฐอเมริกาจะตัดสินใจเกี่ยวกับที่พักระยะยาว ส่วนเวเนซุเอลาประท้วงอย่างรุนแรงเรื่องการปฏิบัติต่อคนในชาติของพวกเขาเช่นนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรัมป์ ต้องการแร่หายากจากยูเครน เพื่อแลกกับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าเขากำลังเจรจาหาข้อตกลงกับยูเครน ในการจัดหาแร่หายากให้กับสหรัฐฯ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือ รัฐบา

อดีตบิ๊กข่าวกรอง เตือนรัฐบาลอย่าเตี้ยอุ้มค่อม แบกภาระผู้หนีภัยสู้รบด้วยภาษีคนไทย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ดูแลคนไทยให้ดี ข่าวทรัมป์ตัดงบเอ็นจีโอที่ดูคนต่างชาติ กลุ่มคนที่อาศัยตลอดแนวชายแดนตะวันตก