โครงการอาหารโลกจะตัดความช่วยเหลือแก่ประชากร 1 ล้านคนในเมียนมา

โครงการอาหารโลกจำเป็นต้องตัดความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชากรเมียนมา 1 ล้านคนที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม เนื่องจากเผชิญวิกฤตขาดแคลนเงินทุน

แฟ้มภาพ ผู้คนกำลังรอรับข้าวสารที่แจกจ่ายโดยโครงการอาหารโลก (WFP) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามช่วยเหลือด้านอาหารแก่ชุมชนยากจนนอกกรุงย่างกุ้งของประเทศเมียนมา (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568 กล่าวว่า โครงการอาหารโลก (The World Food Programme, WFP) ออกแถลงการณ์กล่าวถึงวิกฤตขาดแคลนเงินทุนอย่างหนัก ทำให้จำเป็นต้องตัดความช่วยเหลือในหลายๆภาคส่วน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชากร 1 ล้านคนในเมียนมาที่กำลังผจญความอดอยากท่ามกลางภาวะสงคราม

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานความช่วยเหลือด้านอาหารของสหประชาชาติซึ่งเป็นองค์การด้านมนุษยธรรมใหญ่ที่สุดของโลกได้รับการจัดสรรเงินทุนราว 4,400 ล้านเหรียญจากสหรัฐอเมริกาในปี 2024 แต่เงินทุนช่วยเหลือระหว่างประเทศของรัฐบาลวอชิงตันถูกระงับไปจนเกือบหมดภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เมียนมาตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองภายหลังการรัฐประหารในปี 2021 ซึ่งส่งผลให้ประเทศเข้าสู่ภาวะที่สหประชาชาติเรียกว่า "วิกฤตหลายรูปแบบ" อันเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง, ความยากจน และความไม่มั่นคงร่วมกัน

โครงการอาหารโลกระบุว่าประชาชนมากกว่า 15 ล้านคนในประเทศที่มีประชากรทั้งหมด 51 ล้านคนแห่งนี้ ไม่สามารถจัดหาอาหารเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันได้ ขณะที่สหประชาชาติเตือนเมื่อปีที่แล้วว่ารัฐยะไข่ทางตะวันตกกำลังเผชิญกับ "ภัยคุกคามจากความอดอยากอย่างรุนแรง"

"ประชาชนมากกว่าหนึ่งล้านคนในเมียนมาจะถูกตัดสิทธิ์จากความช่วยเหลือด้านอาหารของ WFP ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากเรากำลังเผชิญภาวะขาดแคลนเงินทุนอย่างร้ายแรง"

"การตัดสิทธิ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่ความขัดแย้ง, การอพยพ และข้อจำกัดในการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว" แถลงการณ์ระบุ โดยไม่มีการระบุชื่อสหรัฐอเมริกาหรือประเทศผู้บริจาครายใดโดยตรง

อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ระบุว่าหากไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนในทันที โครงการอาหารโลกจะให้ความช่วยเหลือผู้คนที่เปราะบางที่สุดได้เพียง 35,000 คนเท่านั้น รวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ, สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และผู้พิการ

นโยบายรัดเข็มขัดของทรัมป์ในการยกเลิกการบริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศ ทำให้ชุมชนด้านมนุษยธรรมตกอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ไมเคิล ดันฟอร์ด ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกประจำเมียนมากล่าวว่า "สถานการณ์ทั่วประเทศยังคงเลวร้ายลงเรื่อยๆ ชุมชนระหว่างประเทศจะต้องไม่ลืมชาวเมียนมาในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ"

แผนลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐได้รับการผลักดันโดยผู้บริจาคเงินรายใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกอย่างอีลอน มัสก์

เป้าการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของนโยบายนี้เกิดขึ้นกับองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ซึ่งใช้งบประมาณ 42,800 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี และเป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการอาหารโลก

อย่างไรก็ตาม งบประมาณสำหรับ USAID นั้นคิดเป็นเพียง 0.7 - 1.4% ของรายจ่ายรัฐบาลวอชิงตันทั้งหมดในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของสำนักวิจัยพิว (Pew Research Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยที่ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา.

เพิ่มเพื่อน