กลุ่มฮามาสปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คนแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 369 คนจากเรือนจำอิสราเอล ท่ามกลางความกังวลว่าข้อตกลงสงบศึกในฉนวนกาซาอาจจะล้มเหลวในไม่ช้า

(ตัวประกันมีป้ายห้อยคอ จากซ้ายไปขวา) ยาอีร์ ฮอร์น ชาวอิสราเอลเชื้อสายอาร์เจนตินา, ซากี เดเกล-เชน ชาวอิสราเอลเชื้อสายอเมริกัน และซาชา ทรูปานอฟ ชาวอิสราเอลเชื้อสายรัสเซียยืนอยู่บนเวทีข้างๆ นักรบฮามาส ระหว่างการส่งมอบตัวประกันให้กับคณะทำงานของกาชาดสากลในเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ (Photo by Eyad BABA / AFP)

อดีตนักโทษชาวปาเลสไตน์ซึ่งถูกปล่อยตัวจากเรือนจำอิสราเอล ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนๆ และครอบครัวเมื่อเดินทางมาถึงเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ (Photo by BASHAR TALEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษรอบที่ 6 ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เสร็จสิ้นไปเรียบร้อย ท่ามกลางความกังวลก่อนหน้านี้ที่มีการขู่ว่าจะเลื่อนกระบวนการออกไปก่อน เพราะสองฝ่ายกล่าวหากันว่ามีการละเมิดข้อตกลง
นักรบฮามาสปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คน ขณะที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 369 คนในการแลกเปลี่ยนครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์
ซากี เดเกล-เชน ชาวอิสราเอลเชื้อสายอเมริกัน, ซาชา ทรูปานอฟ ชาวอิสราเอลเชื้อสายรัสเซีย และยาอีร์ ฮอร์น ชาวอิสราเอลเชื้อสายอาร์เจนตินาถูกส่งตัวให้กับหน่วยงานกาชาดสากลและเดินทางกลับสู่ครอบครัวในอิสราเอลอย่างปลอดภัยในที่สุด หลังจากถูกควบคุมตัวมานานกว่า 16 เดือน
ไม่นานหลังจากนั้น รถบัสบรรทุกนักโทษชาวปาเลสไตน์ก็ออกเดินทางจากเรือนจำโอเฟอร์ของอิสราเอล และได้รับการต้อนรับจากฝูงชนที่โห่ร้องในเมืองรามัลเลาะห์ของเขตเวสต์แบงก์ ขณะที่รถบัสอีกหลายคันรับนักโทษจากเรือนจำอิสราเอลในทะเลทรายเนเกฟไปยังเมืองข่าน ยูนิส ในฉนวนกาซา
การแลกเปลี่ยนครั้งงล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสขู่ว่าจะระงับการปล่อยตัวตัวประกันเนื่องจากอิสราเอลถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลง ขณะที่อิสราเอลขู่ว่าจะกลับมาทำสงครามอีกครั้งหากฮามาสยึกยักเรื่องตัวประกัน
จากตัวประกัน 251 คนที่ถูกจับระหว่างการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดสงครามนั้น เหลือ 70 คนที่ยังอยู่ในฉนวนกาซา รวมถึง 35 รายที่กองทัพอิสราเอลระบุว่าเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ การเจรจาเกี่ยวกับการหยุดยิงระยะที่สองซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อวางขั้นตอนสู่การยุติสงครามอย่างถาวร คาดว่าจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สนับสนุนอิสราเอลมากที่สุดและเป็นหนึ่งในผู้ไกล่เกลี่ยการสงบศึก เดินทางถึงอิสราเอลเมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์และเข้าเจรจากับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเกี่ยวกับการสงบศึก
หลังจากนั้น เนทันยาฮูประกาศขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สำหรับ "การสนับสนุนอย่างเต็มที่" ของเขาในการเผชิญหน้ากับกลุ่มฮามาสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์ได้ขู่ฮามาสไว้ว่า "นรกแตก" จะเกิดขึ้นหากตัวประกันชาวอิสราเอลทุกคนไม่ได้รับการปลดปล่อยจากกาซาภายในเที่ยงวันของวันเสาร์
"จุดยืนที่แน่วแน่ของประธานาธิบดีทรัมป์ส่งผลให้มีการปล่อยตัวตัวประกันของเรา 3 คนในวันนี้ แม้ว่าฮามาสจะเคยปฏิเสธการปล่อยตัวพวกเขามาก่อนก็ตาม" เนทันยาฮูกล่าว
ฮาเซม กัสเซม โฆษกของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า สหรัฐอเมริกาต้องบังคับให้อิสราเอลปฏิบัติตามข้อตกลงสงบศึกให้ได้ หากอิสราเอลห่วงใยชีวิตของตัวประกันเหล่านั้นจริงๆ
ทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงอยู่ภายใต้ความตึงเครียดอย่างหนักนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้เข้ายึดครองฉนวนกาซา และย้ายประชากรกว่า 2 ล้านคนไปยังอียิปต์หรือจอร์แดนแทน ซึ่งชาติอาหรับออกมาร่วมกันต่อต้านแนวคิดดังกล่าวอย่างดุเดือด
การเจรจาข้อตกลงระยะที่สองนั้นถูกเลื่อนจากกำหนดเดิม และการที่คู่ขัดแย้งต่างโทษกันและกันว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลง ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจไม่ได้ไปต่อและจะสิ้นสุดลงแค่เพียงเท่านี้ จนกว่าจะมีการเจรจากันใหม่
การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,211 รายในอิสราเอล ขณะที่การตอบโต้ของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 48,264 รายในฉนวนกาซา.