
ในแผนการซึ่งเป็นที่ถกเถียงเกี่ยวกับการยึดครองฉนวนกาซาของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้กำหนดสิทธิในการคืนถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ข้อความที่ตัดทอนมาจากการสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Fox News ซึ่งเผยแพร่ในวันจันทร์ (ตามเวลาท้องถิ่น) ทรัมป์ตอบคำถามที่ว่าชาวปาเลสไตน์จะมี “สิทธิหวนคืนถิ่น” ในแผนของเขาหรือไม่
“ไม่ พวกเขาจะไม่หวนกลับไป เพราะพวกเขาจะมีที่อยู่อาศัยที่ดีกว่านั้นมาก” ในการสัมภาษณ์ ทรัมป์ยังพูดถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออนาคตอีกด้วย “ผมเองก็ใคร่อยากจะเป็นเจ้าของมัน” เขากล่าว หมายความถึงฉนวนกาซา ในอนาคตชาวปาเลสไตน์สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกันได้ถึงหกแห่งนอกฉนวนกาซา “อีกนัยหนึ่ง ผมกำลังพูดถึงการสร้างที่อยู่อาศัยถาวรให้พวกเขา เพราะถ้าพวกเขากลับไปที่นั่นตอนนี้ คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่พวกเขาจะอยู่ได้ – มันไม่น่าอยู่”
สหรัฐฯ จะสร้างชุมชนสวยๆ ที่อื่นสำหรับประชากรฉนวนกาซาประมาณ 2 ล้านคน ทรัมป์กล่าวกับ Fox News “อาจจะห้า หก หรือสองแห่ง แต่เราจะสร้างชุมชนที่ปลอดภัยให้ห่างจากที่ที่พวกเขาเคยอยู่ ห่างจากภัยอันตรายทั้งหมด ขอให้มองว่าเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออนาคต น่าจะเป็นดินแดนที่สวยงาม ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก”
ทรัมป์เคยพูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตันของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลว่า สหรัฐฯ ต้องการควบคุมฉนวนกาซา “ในระยะยาว” เขาได้ประกาศเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของพื้นที่ชายฝั่งที่ถูกระเบิดทำลายราบคาบว่าจะเป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ในอนาคต
ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ยังแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ตามความคิดของเขา การฟื้นฟูฉนวนกาซาซึ่งถูกทำลายโดยสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสขึ้นใหม่นั้น ควรเกิดขึ้นโดยปราศจากผู้อาศัยก่อนหน้านี้ ตามแผนของเขา ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนที่มีถิ่นฐานในฉนวนกาซาจะต้องโยกย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศอื่น เช่น อียิปต์และจอร์แดน
การประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่พอใจจากนานาชาติ ทั้งกลุ่มรัฐอาหรับ สหประชาชาติ และประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาต่างปฏิเสธแผนของทรัมป์ เช่นเดียวกับตัวแทนชาวปาเลสไตน์ เมื่อวันอาทิตย์นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนีเองก็วิจารณ์เกี่ยวกับแผนดังกล่าวว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม “การย้ายถิ่นฐานใหม่ของประชากรเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ”
อียิปต์ต้องกำหนดการประชุมสุดยอดรัฐอาหรับแบบฉุกเฉินในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ว่าด้วย “พัฒนาการที่ร้ายแรงล่าสุด” เกี่ยวกับดินแดนปาเลสไตน์
ส่วนผู้นำอิสราเอล หลังจากเดินทางกลับจากวอชิงตัน เขากล่าวถึงแผนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างมีชัยว่าเป็น “แนวทางการปฏิวัติ” มีรายงานว่าเนทันยาฮูได้รับแจ้งเกี่ยวกับแผนดังกล่าวเพียงไม่นานก่อนที่ทรัมป์จะประกาศ “ประธานาธิบดีทรัมป์มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง และดีกว่ามากสำหรับอิสราเอล ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิวัติและสร้างสรรค์ที่เรากำลังหารือกันอยู่” เนทันยาฮูกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์ตั้งใจมากที่จะปฏิบัติตามแผนดังกล่าว “และผมคิดว่านี่เป็นการเปิดโอกาสให้เรามากมาย” เขากล่าว
ในการให้สัมภาษณ์ ทรัมป์ย้ำถึงมุมมองของเขาว่า เขาสามารถโน้มน้าวอียิปต์และจอร์แดน ซึ่งทั้งสองประเทศได้รับความช่วยเหลือทางทหารอย่างกว้างขวางจากสหรัฐฯ ให้ยอมรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา “ผมคิดว่าผมสามารถทำข้อตกลงกับจอร์แดนได้ ผมคิดว่าผมสามารถทำข้อตกลงกับอียิปต์ได้ เราให้เงินพวกเขาปีละหลายพันล้านดอลลาร์” เขากล่าวกับ Fox News
เมื่อปีที่แล้วทรัมป์เคยกล่าวว่า ฉนวนกาซา “คล้ายโมนาโก” และจาเร็ด คุชเนอร์-ลูกเขยของเขาให้คำแนะนำว่า อิสราเอลสามารถเคลียร์พลเรือนในฉนวนกาซาเพื่อพัฒนา “สินทรัพย์ริมชายฝั่งทะเล” ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ บอกมีแน่ แผนรับมือการขึ้นกำแพงภาษีสหรัฐฯ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรับมือการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกากับประเทศต่างๆทั่วโลก จะมีความชัดเจนอย่างไรบ้าง
นักวิชาการ มธ. แนะรัฐบาลหนุน 'Tokenization' หลัง 'ทรัมป์' ตั้งกองทุนสำรองบิตคอยน์
นักวิชาการธรรมศาสตร์ วิเคราะห์คำสั่งจัดตั้งกองทุนสำรองบิตคอยน์ฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ช่วยการันตี-สนับสนุนการเงินดิจิทัล ถือเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดคริปโตฯ ทั่วโลก