พบสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่ 224 ชนิดพันธุ์ในลุ่มน้ำโขงปี 2564

องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ "องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล" เปิดเผยในรายงานเมื่อวันพุธว่า มีการค้นพบสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่ 224 ชนิดพันธุ์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในปี 2564 ซึ่งรวมถึงจิ้งจกนิ้วยาวสายพันธุ์ใหม่ในไทย แม้ว่าจะมีภัยคุกคามแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างรุนแรง

รายงานรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 26 มกราคม 2565 กล่าวว่า องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) เผยแพร่รายงานในวันเดียวกันว่า ปีที่ผ่านมามีการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดพันธุ์ใหม่ 224 ชนิดพันธุ์ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ที่ครอบคลุมประเทศไทย, เมียนมา, ลาว, กัมพูชาและเวียดนาม โดยสิ่งมีชีวิตที่ค้นพบใหม่นี้มีอาทิ จิ้งจกนิ้วยาวพันธุ์ใหม่ในไทย, ต้นหม่อนพันธุ์ใหม่ในเวียดนาม, ลิงที่ตั้งชื่อตามภูเขาไฟ, ต้นไผ่พันธุ์ใหม่ที่ปรับสภาพเติบโตได้ในพื้นที่แห้งแล้ง และกบหัวโตในเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งเผชิญความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่า

ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟกล่าวว่า การค้นพบชนิดพันธุ์ใหม่เหล่านี้ขับเน้นถึงความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ของอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง และเป็นข้อพิสูจน์ถึงความยืดหยุ่นของธรรมชาติในการเอาชีวิตรอดในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติที่กระจัดกระจายและเสื่อมโทรม

เค. โยคานันท์ ผู้นำระดับภูมิภาคด้านสัตว์ป่าและอาชญากรรมสัตว์ป่าของดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ-ลุ่มแม่น้ำโขง กล่าวว่า ชนิดพันธุ์เหล่านี้เป็นผลผลิตที่พิเศษและสวยงามจากวิวัฒนาการหลายล้านปี แต่ตกอยู่ภายใต้การคุกคามรุนแรง โดยหลายชนิดพันธุ์สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ก่อนที่ชนิดพันธุ์นั้นๆ จะได้รับการจัดจำแนก

พื้นที่นี้เป็นที่อยู่อาศัยของบางสปีชีส์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในโลก ซึ่งเสี่ยงต่อการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย, โรคจากกิจกรรมของมนุษย์ และการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย

รายงานขององค์การสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้วกล่าวว่า การลักลอบค้าสัตว์ป่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังคืบคลานกลับมา หลังจากหยุดชะงักไปชั่วคราวเนื่องจากข้อบังคับควบคุมโควิด-19 ที่ทำให้หลายประเทศปิดพรมแดนและตรวจตราเข้มงวดขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทีอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทีอนุภูมิภาค GMS ครั้งที่ 8 ชูแนวทางพัฒนาของไทยด้วยนวัตกรรมที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงและเท่าเทียม มั่นใจประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สามารถพัฒนาร่วมกัน