ผลสำรวจเผย ชาวกรีนแลนด์ส่วนใหญ่ไม่อยากเป็นอเมริกัน

ชาวกรีนแลนด์ส่วนใหญ่ไม่อยากให้เกาะของตนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คาดการณ์ไว้ ตามผลสำรวจที่เผยแพรล่าสุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ของเดนมาร์ก (Photo by CHARLY TRIBALLEAU and Michal Cizek / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 กล่าวว่า ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของชาวกรีนแลนด์เผยว่า พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ต้องการเป็นพลเมืองอเมริกัน ท่ามกลางกระแสร้อนระอุที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์ซึ่งกลับมายังทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนมกราคม ได้ส่งสัญญาณว่าเขาต้องการให้เกาะในทะเลอาร์กติกแห่งนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา โดยเชื่อกันว่าเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งสำรองน้ำมันและแร่ธาตุขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์

เมื่อถูกถามว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ หรือไม่ ชาวกรีนแลนด์ 85% ตอบว่าไม่ ตามผลสำรวจที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Berlingske ของเดนมาร์กและ Sermitsiaq ของกรีนแลนด์ ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 6% ระบุว่าเห็นด้วย และ 9% ยังไม่ตัดสินใจ

"นี่เป็นการสำรวจครั้งแรกที่ถามตัวแทนประชากรของกรีนแลนด์ และผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก" แคสเปอร์ มอลเลอร์ แฮนเซน ศาสตราจารย์สาขาวิชารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน กล่าวกับเอเอฟพี

"ผมคิดว่าการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ต้องการเป็นคนอเมริกัน" เขากล่าวเสริม

จากผลสำรวจพบว่าชาวกรีนแลนด์ราว 45% มองว่าการที่ทรัมป์สนใจเกาะของตนนั้นถือเป็น "ภัยคุกคาม" ในขณะที่ 43% มองว่าเป็น "โอกาส" และ 13% ยังไม่ได้ตัดสินใจไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

การสำรวจนี้สอบถามพลเมืองกรีนแลนด์จำนวน 497 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ระหว่างวันที่ 22-26 มกราคม และมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ 1.9 ถึง 4.4 จุดเปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ กรีนแลนด์มีประชากร 57,000 คน

ฝ่ายบริหารของกรีนแลนด์ซึ่งต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจำนวนมากจากเดนมาร์ก ได้ผลักดันการแยกตัวเป็นอิสระมานานแล้ว และเปิดกว้างที่จะทำธุรกิจกับสหรัฐอเมริกา

ขณะที่นายกรัฐมนตรีมูเต เอเกเด ของกรีนแลนด์เคยกล่าวหลังจากที่ทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยยืนกรานว่า "ชาวกรีนแลนด์ไม่ปรารถนาที่จะเป็นอเมริกัน".

เพิ่มเพื่อน