ไฟป่าในลอสแองเจลิสยังคงลุกลาม ระดมกองกำลังป้องกันประเทศเข้าช่วยเหลือ

ไฟป่าขนาดใหญ่ที่เผาผลาญทั้งชุมชนและทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัยในลอสแองเจลิส ยังไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่กองกำลังป้องกันประเทศของสหรัฐฯ เตรียมพร้อมลงพื้นที่เพื่อช่วยระงับสถานการณ์

บ้านเรือนตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากไฟป่าลุกลามบนภูเขาในชุมชน Topanga ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 มกราคม (Photo by David Swanson / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 กล่าวว่า ไฟป่าขนาดใหญ่ในลอสแองเจลิสยังคงลุกลามเผาผลาญชุมชน จนทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมได้ในเร็ววันนี้

พื้นที่เกือบทั้งหมดของเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐฯ กลายเป็นซากปรักหักพัง ควันลอยฟุ้งทั่วท้องฟ้าและมีกลิ่นฉุนแพร่กระจายไปเกือบทุกอาคาร

ปฏิบัติการดับเพลิงครั้งใหญ่ยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่สาม โดยได้รับการสนับสนุนจากเฮลิคอปเตอร์ที่ทำหน้าที่ทิ้งน้ำ ในช่วงเวลาที่กระแสลมสงบชั่วคราว

ท่ามกลางความโกลาหล การปล้นสะดมได้ปะทุขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวนมาก และเตรียมส่งทหารหลายร้อยนายเข้าประจำการ

นายอำเภอโรเบิร์ต ลูนา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "กรมตำรวจเทศมณฑลลอสแองเจลิสได้ร้องขอการสนับสนุนจากกองกำลังป้องกันประเทศของรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างเป็นทางการสำหรับไฟป่าทั้งสองจุด"

"ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เรามีสมาชิกกองกำลังฯประมาณ 400 นายทั่วทั้งรัฐที่พร้อมให้การสนับสนุนเรา และคาดว่าพวกเขาอาจมาถึงที่เกิดเหตุได้ในคืนนี้" นายอำเภอกล่าว พร้อมเสริมว่าเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้อนุมัติคำร้องดังกล่าวแล้ว

นายอำเภอยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่เริ่มการลาดตระเวนในเขตอพยพแล้ว และจะจับกุมใครก็ตามที่ไม่สมควรจะถูกพบเห็นอยู่ที่นั่น

ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ถูกไฟแผดเผา แปซิฟิก พาลิเซดส์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผู้อยู่อาศัยฐานะดี กำลังถูกทำลายล้างและเริ่มลามไปยังพื้นที่อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองอัลตาดีนา

"เราเครียดมากกับการปล้นสะดมที่เกิดขึ้นทั่วบริเวณ จนเพื่อนบ้านของผมต้องเฝ้าบ้านหลายหลังในละแวกนั้นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา และผมจะรับช่วงต่อพวกเขาในคืนนี้" ชายคนหนึ่งกล่าว โดยบ้านของเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่หลังที่เหลืออยู่บนถนนอัลตาดีนาที่ถูกไฟป่าคุกคาม

มีการประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้นในพื้นที่อพยพของเมืองชายฝั่งซานตาโมนิกา และจะมีเคอร์ฟิวในตอนกลางคืนเพิ่มขึ้นในเขตที่เกิดไฟป่า

ไฟป่าครั้งใหญ่นี้ได้ลุกลามไปทั่วพื้นที่กว่า 19,000 เอเคอร์ (ประมาณ 48,070 ไร่) ในย่านแปซิฟิก พาลิเซดส์ที่หรูหรา ขณะที่ไฟป่าอีกแห่งในเมืองอัลตาดีนาได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 13,000 เอเคอร์ (ประมาณ 32,890 ไร่)

เมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยงานดับเพลิงกล่าวว่าไฟป่าทั้งสองแห่งยังไม่ถูกควบคุม แต่การลุกลามได้ชะลอลงแล้ว

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่าเขาจะจัดสรรเงินทุนและทรัพยากรของรัฐบาลกลางเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้แคลิฟอร์เนียสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้

"นี่เป็นไฟป่าลุกลามที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแคลิฟอร์เนีย" ไบเดนกล่าว

เปลวไฟที่เคลื่อนตัวเร็วเพราะแรงหนุนของกระแสลมพัดแรงถึง 100 ไมล์ (160 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมงตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ได้ทำลายอาคารมากกว่า 2,000 หลังทั่วเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาหลายล้านดอลลาร์

หัวหน้าหน่วยดับเพลิงของลอสแองเจลิสกล่าวว่า "จากการประเมินเบื้องต้น อาคารที่ถูกทำลายในแปซิฟิก พาลิเซดส์มีจำนวนหลายพันหลัง"

ประชาชนเกือบ 180,000 คนทั่วลอสแองเจลิสยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ

เจ้าหน้าที่และนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าสภาพอากาศที่มีลมแรงและแห้งแล้งทำให้สถานการณ์ยังคงวิกฤต แม้จะบรรเทาลงแล้วก็ตาม แต่ยังไม่หมดไป

นายกเทศมนตรีลอสแองเจลิสกล่าวว่า "กระแสลมยังคงพัดรุนแรงเป็นประวัติการณ์ นี่คือพายุเพลิงครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"

ขณะที่จดหมายข่าวของกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่า "ไฟป่ายังคงลุกลามอย่างรวดเร็ว และอาจมีเพิ่มอีกหลายจุดตลอดทั้งวันพฤหัสบดีไปจนถึงวันศุกร์"

ไฟป่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในพื้นที่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และมีบทบาทสำคัญในธรรมชาติ

แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์กำลังก่อให้เกิดสภาพอากาศที่เลวร้ายยิ่งขึ้น

ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียประสบภัยแล้งเป็นเวลาสองทศวรรษ ซึ่งตามมาด้วยอีกสองปีที่มีฝนตกชุกเป็นพิเศษ ส่งผลให้พืชพรรณเติบโตอย่างรวดเร็ว จนพื้นที่นี้เต็มไปด้วยเชื้อเพลิงธรรมชาติที่พร้อมจะลุกไหม้ได้ตลอด.

เพิ่มเพื่อน