หวั่นซ้ำรอย เกาหลีใต้เร่งตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ลำอื่นๆของเจจูแอร์

เกาหลีใต้สั่งตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737-800 ของเจจูแอร์ทั้งหมดอย่างละเอียด หลังจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าวตกและระเบิดเป็นลูกไฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย

ชเว ซังมก รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้และรักษาการประธานาธิบดี วางดอกไม้ที่แท่นบูชาเพื่อรำลึกถึงเหยื่อของเหตุเครื่องบินตก ที่สนามกีฬามูอัน ในเมืองมูอัน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม (Photo by JUNG YEON-JE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า เกาหลีใต้หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอย สั่งการให้เร่งตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737-800 ของเจจูแอร์ทั้งหมดอย่างละเอียด หลังจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าวตกและระเบิดเป็นลูกไฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 179 ราย

เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางอากาศของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่จากบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน กำลังเดินทางมาร่วมกับเจ้าหน้าที่สอบสวนที่เริ่มสืบสวนเหตุการณ์ภัยพิบัติทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดบนแผ่นดินเกาหลีใต้ ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเกิดจากเครื่องบินชนกับนก

เครื่องบินลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสาร 181 คนจากประเทศไทยไปยังเกาหลีใต้ และกัปตันได้ติดต่อขอความช่วยเหลือในการลงจอดฉุกเฉิน แต่ท้ายที่สุดจบด้วยการพุ่งชนรั้วแบริเออร์และระเบิดจนไฟลุกไหม้ทั้งลำ

ผู้โดยสารบนเที่ยวบิน 2216 ของสายการบินเจจูแอร์เสียชีวิตทั้งหมด ยกเว้นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 2 คนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยออกมาได้จากซากเครื่อง

เกาหลีใต้เริ่มต้นการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 7 วัน โดยการชักธงชาติครึ่งเสา และรักษาการประธานาธิบดีได้บินไปยังจุดเกิดเหตุเครื่องบินตกที่เมืองมูอันทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเพื่อร่วมพิธีรำลึก

ชเว ซังมก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ซึ่งเพิ่งดำรงตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระบุตัวตนผู้เสียชีวิตและให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย รวมทั้งการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงสาเหตุของโศกนาฏกรรมดังกล่าว

เขายังกล่าวอีกว่าเกาหลีใต้จะดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการเครื่องบินโดยรวมอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันภัยพิบัติทางการบินในอนาคต

จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวตนผู้เสียชีวิตได้แล้ว 146 รายโดยใช้การวิเคราะห์ดีเอ็นเอและการเก็บลายนิ้วมือ

จู จ็องวัน รัฐมนตรีช่วยคมนาคมเกาหลีใต้กล่าวในการแถลงข่าวว่า "เครื่องบินอีก 101 ลำที่ดำเนินการโดย 6 สายการบินซึ่งใช้รุ่นเดียวกับเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุ ได้รับคำสั่งให้มีการตรวจสอบอย่างครอบคลุมจากบันทึกการบำรุงรักษาระบบ เช่น เครื่องยนต์และล้อลงจอด และกระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันนี้และดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2025

มีเหตุระทึกเกิดขึ้นตามมาหลังเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ตก เมื่อเครื่องบินของเจจูแอร์อีกลำที่เป็นรุ่นเดียวกัน ประสบปัญหาขัดข้องที่ระบบลงจอดและถูกบังคับให้บินกลับไปยังต้นทางสนามบินนานาชาติกิมโปในโซล หลังจากขึ้นบินในวันจันทร์ได้ไม่นาน

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของเจจูแอร์ร่วงลงมากถึง 15% ในวันจันทร์ โดยลูกค้าที่วิตกกังวลได้ยกเลิกเที่ยวบินกับสายการบินนี้ไปแล้วประมาณ 68,000 ที่นั่ง.