ถอดถอนรักษาการประธานาธิบดี เกาหลีใต้วุ่นตั้งผู้นำชั่วคราวคนใหม่

สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติถอดถอนรักษาการประธานาธิบดี ทำให้ประเทศจมดิ่งลงสู่วิกฤตการเมืองมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากอดีตประธานาธิบดีถูกพักงานจากการประกาศกฎอัยการศึกที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก

ชเว ซัง-มก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเกาหลีใต้และรักษาการประธานาธิบดีคนใหม่ กล่าวขณะเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ณ ศูนย์ราชการกรุงโซล เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม (Photo by YONHAP / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า การเมืองเกาหลีใต้ยังคงวุ่นวายก่อนวันสิ้นปี เมื่อฮัน ด็อกซู ผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีถูกสมาชิกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง นับเป็นผู้นำคนที่สองที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตลอดสามสัปดาห์ที่วุ่นวายจากกรณีการประกาศกฎอัยการศึก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซู เพิ่งเข้ารับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม หลังจากรัฐสภาลงมติถอดถอนยุนจากข้อกล่าวหาก่อกบฏ

ในครั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านได้รวมพลังกันขับฮันออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าเขาปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ให้ดำเนินกระบวนการถอดถอนยุนและนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

วู วอน ชิก ประธานรัฐสภาประกาศให้ญัตติถอดถอนนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซู ผ่านการลงมติโดยชอบจากสมาชิกรัฐสภา 192 เสียง ซึ่งคะแนนเสียงทั้งหมดนั้นมาจากฝ่ายค้าน

สมาชิกรัฐสภาจากพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ต่างใช้สิทธิประท้วงอย่างดุเดือดในที่ประชุม หลังจากที่ประธานรัฐสภาอนุมัติให้การใช้เสียงข้างมากนั้นเพียงพอสำหรับการพิจารณาถอดถอนได้ แทนที่จะเป็น 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดเแบบที่ใช้ในการถอดถอนยุน

สมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลตะโกนโวยวายด้วยความโกรธ โดยหลายคนวิ่งเข้าหาประธานฯเพื่อเรียกร้องให้เขาลาออก เนื่องจากการวางตัวไม่เป็นกลางและลิดรอนสิทธิไม่ให้พวกเขามีส่วนร่วมในการลงคะแนนเสียง

นอกจากจะเป็นการถอดถอนประมุขแห่งรัฐเป็นครั้งที่สองในรอบสองสัปดาห์แล้ว การลงคะแนนเสียงในวันศุกร์ยังถือเป็นการถอดถอนรักษาการประธานาธิบดีเป็นครั้งแรกของเกาหลีใต้อีกด้วย

ควอน ซ็อง-ดง หัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าวภายหลังการลงคะแนนว่า ฮัน ด็อกซูไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามการลงมติถอดถอนของฝ่ายค้านแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ฮันกล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาเคารพการตัดสินใจของรัฐสภา และจะรอฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในภายหลังว่าจะยืนหยัดตามมตินั้นหรือไม่

ชเว ซัง-มก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซึ่งขณะนี้ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทั้งรักษาการประธานาธิบดีและรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ให้คำมั่นว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อยุติความวุ่นวายทางการเมืองที่กำลังครอบงำประเทศ

ชเวกล่าวแถลงการณ์หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้นำว่า "การลดความวุ่นวายของรัฐบาลให้เหลือน้อยที่สุดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้" และเสริมว่า "รัฐบาลจะทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อเอาชนะช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายนี้เช่นกัน"

ท่ามกลางวิกฤตที่ยังคงดำเนินอยู่ ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ ซึ่งแย่กว่าช่วงเวลาหลังการประกาศกฎอัยการศึกของยุน ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินวอนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดหุ้นของเกาหลีใต้ก็ร่วงลงเช่นกัน โดยดัชนี KOSPI ปิดตัวลดลง 1.02% ในวันศุกร์

เหตุผลสำคัญของการลงมติถอดถอนฮันคือ การที่รักษาการประธานาธิบดีปฏิเสธที่จะแต่งตั้งผู้พิพากษาเพิ่มเติมในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจำเป็นต่อการพิจารณาตัดสินว่ามติของรัฐสภาในการถอดถอนยุนจะผ่านการอนุมัติหรือไม่ ซึ่งรวมถึงมติถอดถอนฮันครั้งล่าสุดนี้ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันศาลฯมีผู้พิพากษาเพียง 6 คนจากองค์คณะเต็ม 9 คน ซึ่งตามระเบียบผู้พิพากษาต้องเห็นชอบอย่างน้อยจำนวน 6 คน ประธานาธิบดีจึงจะหลุดจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

ฝ่ายค้านต้องการให้ฮันอนุมัติผู้พิพากษาที่ได้รับการเสนอชื่ออีก 3 คนเพื่อเติมคณะผู้พิพากษา 9 คน ซึ่งเขาปฏิเสธที่จะทำ จึงกลายเป็นความวุ่นวายรอบใหม่ในรัฐสภา

ฝ่ายค้านเชื่อว่า การที่ฮันปฏิเสธที่จะแต่งตั้งผู้พิพากษาเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการนั้นเป็นการเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา และการปฏิเสธดังกล่าวถือเป็นการท้าทายโดยตรงต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

ฝ่ายค้านกล่าวในญัตติถอดถอนว่า ฮันจงใจหลีกเลี่ยงการสอบสวนพิเศษเพื่อสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อกบฏ และได้ระบุอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะปฏิเสธการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญอีก 3 คน

ฝ่ายค้านกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมายและรับใช้ประชาชน

ฮันได้กล่าวอธิบายต่อข้อกล่าวหาเหล่านั้นว่า เขาต้องการให้พรรครัฐบาลและฝ่ายค้านประนีประนอมกันในเรื่องการเสนอชื่อผู้พิพากษา

"หลักการที่สอดคล้องกันซึ่งฝังอยู่ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายของเราคือ การงดเว้นการใช้อำนาจพิเศษของประธานาธิบดีอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการแต่งตั้งสถาบันตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องมีการบรรลุฉันทามติระหว่างพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนเสียก่อน" ฮัน ด็อกซู วัย 75 ปีกล่าว

ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญได้จัดให้มีการพิจารณาเบื้องต้นครั้งแรกเกี่ยวกับความถูกต้องของการถอดถอนประธานาธิบดียุน แม้จะมีข้อโต้แย้งล่าสุดจากทีมกฎหมายของประธานาธิบดีที่ถูกสั่งพักงาน

นอกจากนี้ ตำรวจระบุว่าพวกเขาได้เริ่มบุกค้นเซฟเฮ้าส์ของประธานาธิบดีและกำลังรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนคดีกฎอัยการศึก.

เพิ่มเพื่อน