อัยการไต้หวันสั่งฟ้องอดีตนายกเทศมนตรีไทเปและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในข้อกล่าวหาทุจริตจากการนำเงินบริจาคทางการเมืองไปใช้ในทางที่ผิด และยื่นขอศาลพิจารณาโทษจำคุก 28 ปี
แฟ้มภาพ เคอ เหวินเจ๋อ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน และอดีตหัวหน้าพรรคประชาชนไต้หวัน (Photo by Yasuyoshi CHIBA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ย้อนไปในเดือนสิงหาคม เคอ เหวินเจ๋อ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันถูกตำรวจจับกุมจากคดึอื้อฉาวด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงไทเปสมัยที่สองตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2022
อดีตศัลยแพทย์ที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองและหัวหน้าพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในฐานะพรรคลำดับสาม โดยได้รับคะแนนเสียงประมาณหนึ่งในสี่จากการเลือกตั้งเดือนมกราคม แต่เขากลับต้องพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวหลายเรื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ล่าสุด สำนักงานอัยการเขตไทเปได้แจ้งว่าเคอ เหวินเจ๋อถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีทุจริตด้านทรัพย์สิน รวมถึงใช้เงินบริจาคเพื่อดำเนินกิจการทางการเมืองและการกุศลในทางที่ผิด รวมทั้งละเมิดความไว้วางใจ
อัยการกล่าวว่าพวกเขากำลังพยายามเรียกร้องโทษจำคุกรวม 28 ปี 6 เดือนให้กับนักการเมืองผู้นี้ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนตั้งแต่เดือนกันยายน
เรื่องอื้อฉาวด้านอสังหาริมทรัพย์ของเขาเกี่ยวข้องกับโครงการ 'Core Pacific City' ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาไทเป และถูกกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ต่อชีน ชิงจิ้ง ผู้พัฒนาโครงการดังกล่าว
"เคอ เหวินเจ๋อได้รับเงินสินบนมูลค่า 15 ล้านเหรียญไต้หวันจากชีน ชิงจิ้งในปี 2022 เป็นการส่วนตัว และเอาเงินอีก 2.1 ล้านเหรียญไต้หวันจากบริษัทของเขาเข้ากระเป๋าตัวเอง" รองอัยการสูงสุดกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ขณะที่ชีน ชิงจิ้งถูกกล่าวหาว่าได้รับผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน จากโครงการ 'Core Pacific City' ซึ่งศาลเคยระบุไว้เมื่อครั้งที่สั่งคุมขังเคอ เหวินเจ๋อ
"เคอ เหวินเจ๋อถูกพบในสำนักงานพร้อมกับกระดาษโน้ตที่ฉีกขาดซึ่งระบุคำสั่งให้ผู้ร่วมขบวนการหลบหนีออกนอกประเทศระหว่างการสอบสวน" รองอัยการสูงสุดระบุ และเสริมว่า "ทัศนคติของเขาหลังจากก่ออาชญากรรมยังถือว่าไร้จิตสำนึกอีกด้วย"
อัยการยังตั้งข้อกล่าวหาเคอ เหวินเจ๋อว่ายักยอกและร่วมยักยอกเงินบริจาคทางการเมืองมูลค่ากว่า 60 ล้านเหรียญไต้หวันที่บริจาคให้กับพรรคของเขาในสองกรณี และนำเงินบริจาคมูลค่า 8.27 ล้านเหรียญไต้หวันไปใช้ในทางที่ผิด โดบมอบให้มูลนิธิสวัสดิการสังคมสำหรับการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
เคอ เหวินเจ๋อปฏิเสธข้อกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ในคดีทรัพย์สิน แต่เขาได้ขอโทษผู้ติดตามของเขาหลังจากมีการกล่าวหาว่ารายงานเงินหาเสียงของเขาไม่ถูกต้องในช่วงที่เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
หวง กัวชาง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) และหัวหน้าคณะกรรมาธิการนิติบัญญัติของพรรคฯ ออกมาโจมตีคำฟ้องดังกล่าว ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็น "แรงจูงใจจากความแค้นทางการเมือง"
"คำฟ้องใช้ถ้อยคำคลุมเครือ และกล่าวหาว่ามีการรับสินบนโดยไม่ได้นำเสนอหลักฐานที่เป็นรูปธรรม" หวง กัวชางกล่าวกับผู้สื่อข่าว
หวงยังยืนกรานว่า "เงินบริจาคทางการเมืองไม่ได้เข้ากระเป๋าเคอ เหวินเจ๋อ แม้แต่ดอลลาร์เดียว"
ทั้งนี้ เคอ เหวินเจ๋อได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯตั้งแต่เดือนกันยายน และได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคฯเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะอยู่ในเรือนจำ
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับจดหมายดังกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี พรรคประชาชนไต้หวันกล่าวว่าจะยังไม่มีการเลือกประธานคนใหม่ในตอนนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ 22 พ.ย.
'จตุพร' แทงสวน อสส.ส่งความเห็นหลังปล่อยอำนาจหลุดมือ เชื่อ 22 พ.ย. ศาลรธน. มติเอกฉันท์ รับคำร้อง โต้สีอื่นไม่เคยตกใส่เสื้อแดง มีแต่สีคนตระบัดสัตย์ไม่ซื่อตรงปชช. ชี้ 'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ เตือนหลายฝ่ายทนไม่ไหว คดีทุจริตไม่ติดคุกสักวัน หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย
ป.ป.ช. ฟัน อดีตนายกอบต.โพธิ์ศรีสว่าง เรียกรับเงิน 1.9 แสนบาท แลกเข้าทำงานมิชอบ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหานายรังสรรค์ บุญมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ติดต่อเรียกรับเงินจากบุคคลที่ประสงค์จะเข้าทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่างโดยมิชอบ
'ชทพ.' ย้ำจุดยืนนิรโทษกรรม ไม่คลุม 3 เรื่อง เชื่อ สุดท้ายไปทิศทางเดียวกัน
'วราวุธ' ย้ำจุดยืนนิรโทษกรรม ไม่คลุม ม.112-อาญาร้ายแรง-คดีทุจริต ระบุ หากพท. จะเอา ค่อยพิจารณาอีกที แต่เชื่อ สุดท้ายไปทิศทางเดียวกัน
'ชาญ' ชนะแต่แพ้! เตือนเจ้าหน้าที่รัฐ ระวัง ม.157
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชนะแต่แพ้
'เลขากฤษฎีกา' ยืนยัน 'ลุงชาญ' ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ หลังนั่งนายกฯอบจ.ปทุมฯ
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์