โจ ไบเดนลดโทษประหารชีวิตให้นักโทษ 37 คนของรัฐบาลกลาง โดยดำเนินการทิ้งทวนก่อนการเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สนับสนุนการขยายขอบเขตโทษประหารที่อาจกลับมาเข้มงวดประเด็นดังกล่าวต่อจากการทำงานสมัยแรก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวระหว่างเยี่ยมผู้ป่วยและครอบครัวในช่วงวันหยุด ที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติในวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม (Photo by Ting Shen / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ใช้อำนาจทิ้งทวนด้วยการลดโทษประหารชีวิตให้แก่นักโทษของรัฐบาลกลาง 37 คนจากทั้งหมดที่มีอยู่ 40 คน ก่อนการกลับมายึดทำเนียบขาวของโดนัลด์ ทรัมป์
เมื่อเหลือเวลาในตำแหน่งไม่ถึงหนึ่งเดือน ไบเดนต้องเผชิญกับการเรียกร้องที่เพิ่มมากขึ้นจากฝ่ายต่อต้านโทษประหารชีวิตให้ลดโทษของนักโทษเหล่านั้น เป็นจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ทัณฑ์บน ดังนั้นความเคลื่อนไหวล่าสุดของไบเดนจึงทำให้นักโทษเด็ดขาดทั้ง 37 คนรอดจากการถูกฉีดสารพิษ และจะเหลือเพียงการรับโทษจำคุกต่อไป
ปัจจุบันเหลือเพียงอาชญากรมีชื่อเสียงไม่กี่คนที่ลงมือด้วยความเกลียดชังหรือการก่อการร้าย ต้องเผชิญโทษประหารชีวิตของรัฐบาลกลางซึ่งถูกพักโทษไว้ชั่วคราวภายใต้การปกครองของไบเดน
ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์ว่า "การลดโทษนี้สอดคล้องกับการพักโทษประหารชีวิตของรัฐบาลกลางที่รัฐบาลของผมบังคับใช้ในกรณีอื่นๆ ที่ไม่ใช่การก่อการร้ายและการฆาตกรรมหมู่ที่เกิดจากความเกลียดชัง"
"ผมกำลังลดโทษให้กับผู้ต้องขัง 37 คนจากทั้งหมด 40 คนในแดนประหารของรัฐบาลกลาง เป็นจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์พักโทษ" ไบเดนกล่าว
ผู้ต้องขัง 3 คนที่ยังต้องอยู่ในแดนประหารของรัฐบาลกลาง ได้แก่ โชการ์ ซาร์นาเยฟ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่งานบอสตันมาราธอนในปี 2013 และดีแลนน์ รูฟ ผู้ประกาศตนว่าเป็นพวกคลั่งผิวขาวที่สังหารคนผิวดำ 9 คนในเมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนาในปี 2015
อีกหนึ่งคนคือ โรเบิร์ต โบเวอร์ส ผู้สังหารชาวยิว 11 รายระหว่างการกราดยิงหมู่ที่โบสถ์ยิวทรีออฟไลฟ์ในเมืองพิตต์สเบิร์กเมื่อปี 2018
ผู้ที่ถูกลดโทษรวมถึงผู้ต้องขัง 9 คนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมเพื่อนร่วมเรือนจำ, 4 คนในข้อหาฆาตกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างการปล้นธนาคาร และ 1 คนที่ฆ่าเจ้าหน้าที่เรือนจำ
ไบเดนออกตัวให้กับการกระทำของเขาว่า "ขออย่าเข้าใจผิด ผมประณามฆาตกรเหล่านี้และขอแสดงความเสียใจต่อเหยื่อของการกระทำอันน่ารังเกียจของพวกเขา เช่นเดียวกับความเสียใจที่มีต่อครอบครัวทั้งหมดที่ต้องสูญเสียอย่างไม่อาจจินตนาการได้และไม่อาจเยียวยาได้"
"แต่ด้วยสำนึกผิดชอบชั่วดีและประสบการณ์ของผม ผมมั่นใจมากกว่าเดิมว่าเราต้องหยุดใช้โทษประหารชีวิตในระดับรัฐบาลกลาง" เขากล่าวเสริม
ก่อนหน้านี้ ไบเดนหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในฐานะผู้ต่อต้านโทษประหารชีวิต และกระทรวงยุติธรรมได้ออกคำสั่งพักการใช้โทษประหารชีวิตในระดับรัฐบาลกลางหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ
ขณะที่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งล่าสุด ทรัมป์พูดบ่อยครั้งเกี่ยวกับการขยายการใช้โทษประหารชีวิตให้ครอบคลุมถึงผู้อพยพที่ฆ่าพลเมืองอเมริกัน รวมทั้งผู้ค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์
ทั้งนี้ ไม่มีนักโทษของรัฐบาลกลางถูกประหารชีวิตในสหรัฐฯ เลยตั้งแต่ปี 2003 จนกระทั่งทรัมป์กลับมาใช้การประหารชีวิตของรัฐบาลกลางอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2020
นักโทษ 13 คนถูกประหารโดยการฉีดสารพิษในช่วง 6 เดือนสุดท้ายในวาระประธานาธิบดีสมัยแรกของทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวเลขการประหารที่มากกว่าผู้นำสหรัฐทุกคนในรอบ 120 ปี
การประหารชีวิตโดยการฉีดสารพิษของรัฐบาลกลางครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในเรือนจำแห่งหนึ่งของเมืองเทอร์เรอโฮต รัฐอินเดียนา เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2021 ก่อนที่ทรัมป์จะก้าวลงจากตำแหน่งเพียง 4 วัน
โทษประหารชีวิตถูกยกเลิกใน 23 จาก 50 รัฐของสหรัฐฯ ในขณะที่อีก 6 รัฐ ได้แก่ แอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย,โอไฮโอ, ออริกอน, เพนซิลเวเนีย และเทนเนสซี ยังคงมีโทษดังกล่าวแต่ใช้เพียงการพักโทษแทนในทางปฏิบัติ.
