เรียกร้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัย หลังเหตุแทงกันในโรงเรียนที่โครเอเชีย

ครูและผู้ปกครองออกมาประณามระบบรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน หลังเกิดเหตุแทงกันในกรุงซาเกร็บ เมืองหลวงของโครเอเชีย ซึ่งทำให้เด็กอายุ 7 ขวบเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน

ชาวโครเอเชียแสดงปฏิกิริยาเศร้าเสียใจต่ออนุสรณ์สถานชั่วคราวที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียนประถมศึกษา 'Precko' หลังเกิดเหตุทำร้ายด้วยอาวุธมีดในโรงเรียนดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 1 ราย (Photo by DAMIR SENCAR / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ชายวัย 19 ปีคนหนึ่งบุกเข้าไปในโรงเรียนประถมชื่อ 'Precko' ในกรุงซาเกร็บ เมืองหลวงของโครเอเชีย และก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงคนไป 5 คน ก่อนถูกจับกุมในสภาพที่ตัวเองบาดเจ็บ

อาชญากรรมอุกอาจในเช้าวันศุกร์ทำให้เด็กอายุ 7 ขวบเสียชีวิต และอีก 4 คนที่เหลือได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันเสาร์ กลุ่มครูและผู้ปกครองออกมาประณามระบบรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนที่ย่ำแย่จนเกิดความสูญเสีย

พวกเขาเรียกร้องให้มีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อรับรองความปลอดภัยของนักเรียนและเจ้าหน้าที่ รวมถึงการจัดตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงเรียนอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงคุณครูหญิงคนหนึ่งที่พยายามหยุดผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการคงที่และกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ ในซาเกร็บ

สภาผู้ปกครองของโรงเรียนที่เกิดเหตุกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าเหตุการณ์นี้ได้เปิดเผยข้อบกพร่องที่สำคัญของระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่

"น่าเสียดายที่โศกนาฏกรรมที่เราทุกคนกำลังเผชิญร่วมกันนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าระบบการศึกษาที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อให้โรงเรียนของเรามีระบบป้องกัน" สภาฯระบุในแถลงการณ์

นายกรัฐมนตรีอันเดรย์ เพล็นโควิช ของโครเอเชียกล่าวเมื่อคืนวันศุกร์ว่าจะมีการติดตั้งกุญแจล็อคที่ทางเข้าโรงเรียนเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

แต่สำหรับครู, สหภาพครู และผู้ปกครอง การกระทำแค่นั้นยังถือว่าไม่เพียงพอ

ครูคนหนึ่งกล่าวกับสื่อท้องถิ่น "น่าเสียดายที่มาตรการออกมาช้าเกินไป ในฐานะพนักงานและสหภาพแรงงาน เราได้เตือนไปตั้งแต่เนิ่นๆแล้วว่าจำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อปกป้องความปลอดภัยของนักเรียนและพนักงาน"

นายกฯโครเอเชียกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะไม่มีแรงจูงใจทางอุดมการณ์เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ และน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดว่าเกิดจากความผิดปกติทางสุขภาพ

รัฐมนตรีมหาดไทยโครเอเชียให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องสงสัยวัย 19 ปีซึ่งเป็นอดีตนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว มีประวัติความผิดปกติทางจิต

สหภาพแรงงานภาคการศึกษา 3 แห่งเรียกร้องให้มีการเดินขบวนอย่างเงียบๆ ใจกลางกรุงซาเกร็บในวันจันทร์นี้ เพื่อประท้วงประเด็นเรื่องความปลอดภัยในโรงเรียน

ขณะที่บรรดาผู้ปกครองได้วางแผนประท้วงในวันที่ 7 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่โรงเรียนเปิดทำการอีกครั้งหลังวันหยุดเทศกาล

ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ ประชาชนได้จุดเทียนและฝากข้อความแสดงความเสียใจไว้ใกล้กับบริเวณโรงเรียนที่เกิดเหตุโจมตี

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการโครเอเชียยังได้จัดตั้งทีมตอบสนองวิกฤตการณ์ 15 คนเพื่อทำงานช่วยเหลือเด็กนักเรียน, ผู้ปกครอง และครูในการเอาชนะความเจ็บปวดทางจิตใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว.