ผู้นำจีนแนะมาเก๊าเลิกพึ่งพาคาสิโน ในพิธีสาบานตนผู้นำคนใหม่

ประธานาธิบดีจีนร่วมพิธีสาบานตนผู้นำคนใหม่ของมาเก๊า และเรียกร้องให้ศูนย์กลางการพนันแห่งนี้กระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เนื่องในวันฉลองครบรอบ 25 ปีของการกลับสู่การปกครองชองจีนแผ่นดินใหญ่

แซม โฮว ฟาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของมาเก๊า เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ต่อหน้าประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน (ขวา) ในพิธีเปิดงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีการส่งมอบคืนสู่จีน ในมาเก๊า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม (Photo by Justin CHAN / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า แซม โฮว ฟาย อดีตประธานศาลสูงสุดเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของมาเก๊า เนื่องในวันครบรอบ 25 ปีของการส่งมอบคืนสู่จีน โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วยเช่นกัน

อดีตอาณานิคมของโปรตุเกสแห่งนี้กลับคืนสู่การปกครองของจีนในวันที่ 20 ธันวาคม 2542 และรัฐบาลปักกิ่งสัญญาว่า "ระบบทุนนิยมและวิถีชีวิต" ของเมืองจะไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลา 50 ปี

ปัจจุบันจีนถือว่าเมืองแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของโมเดล "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ซึ่งแตกต่างกับฮ่องกงที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับผลกระทบจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยหลายครั้งจนกระทั่งรัฐบาลปักกิ่งประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในปี 2563

ในพิธีดังกล่าว สีจิ้นผิงได้ยกย่องความสำเร็จของมาเก๊าภายใต้การปกครองของจีน ซึ่งรวมถึงความน่าดึงดูดในระดับนานาชาติและจีดีพีต่อหัวที่อยู่ในระดับสูงสุดในโลก

ผู้นำจีนกล่าวในสุนทรพจน์ว่า "ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมาเก๊านับตั้งแต่กลับคืนสู่มาตุภูมิเป็นเครื่องพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' มีข้อได้เปรียบเชิงระบบที่ชัดเจนและมีพลังเข้มแข็งในระยะยาว"

หลังการส่งมอบ มาเก๊าเติบโตขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งคาสิโนของโลก ด้วยรายได้จากการพนันและการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน

แต่ภายใต้แนวทางเชิงบังคับจากรัฐบาลปักกิ่งให้กระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ผู้นำคนใหม่จึงได้นำเสนอภาคอุตสาหกรรม เช่น บริการทางการเงิน, เทคโนโลยี และยาจีนให้เป็นภาคส่วนสำหรับความเติบโตในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ภาษีที่เก็บเกี่ยวได้จากอุตสาหกรรมการพนันยังคงคิดเป็น 81% ของรายได้รัฐบาล และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ามาเก๊ายังต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเลิกพึ่งพาความมั่งคั่งจากคาสิโน

การเฉลิมฉลองครบรอบเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันศุกร์ด้วยพิธีชักธงที่จัตุรัสบัว โดยมีแซม โฮว ฟาย ผู้นำคนใหม่, คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลมาเก๊า และเจ้าหน้าที่จีนเข้าร่วม

แซมดำรงตำแหน่งประธานศาลสูงสุดของมาเก๊าตั้งแต่มีการส่งมอบคืนสู่จีน และเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวในการเลือกตั้งผู้นำเมื่อเดือนตุลาคม โดยได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 99% จากคณะกรรมการผู้ภักดีต่อแผ่นดินใหญ่ 400 คน

ชายวัย 62 ปีรายนี้เกิดในจีนแผ่นดินใหญ่และไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจ เขาเข้ามาแทนที่โฮ ยัตเส่ง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในปี 2562 และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบริหารงานเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาและผลกระทบทางเศรษฐกิจของมาเก๊า

สำหรับดินแดนในการปกครองแห่งนี้ ประธานาธิบดีจีนเน้นย้ำถึงความจำเป็นของเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยเขาได้กำหนดแนวทาง "ความหวังสี่ประการ" ไว้สำหรับการบริหารของแซม

สีจิ้นผิงกล่าวว่า มาเก๊าต้องปรับปรุงการวางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรม และเพิ่มการสนับสนุนนโยบายและการลงทุนทางการเงินเพื่อปลูกฝังอุตสาหกรรมใหม่ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ

เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของเกาะเหิงฉินซึ่งเป็นแผ่นดินที่อยู่ติดกับมาเก๊าและมีขนาดใหญ่กว่าสามเท่า ซึ่งปักกิ่งได้ให้มาเก๊าเช่าบางส่วนเพื่อกระตุ้นอุปทานที่ดินสำหรับการพัฒนาด้านอื่นที่ไม่ใช่คาสิโน

สีจิ้นผิงกล่าวว่า รัฐบาลกลางตัดสินใจพัฒนาเหิงฉินโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่หลากหลายของมาเก๊า และเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตและการจ้างงานของผู้อยู่อาศัยในมาเก๊า จึงไม่อนุญาตให้ใช้สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและโครงการใดๆ ที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์นี้

นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มาเก๊าดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาเพื่อปรับปรุงการปกครองในท้องถิ่น, ขยายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งรักษาความมั่นคงของชาติและเสถียรภาพของมาเก๊า

หลังจากสิ้นสุดการปกครองของโปรตุเกสเป็นเวลา 442 ปี ความมั่งคั่งของมาเก๊าก็เพิ่มขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน

มาเก๊าเป็นสถานที่เดียวในจีนที่อนุญาตให้เล่นการพนันในคาสิโน และแซงหน้าลาสเวกัสมาเป็นเวลานานในฐานะศูนย์กลางคาสิโนอันดับหนึ่งของโลก โดยได้รับแรงหนุนตลอดสองทศวรรษจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวจีน

ทั้งนี้ มาเก๊าซึ่งมีประชากรเกือบ 690,000 คน ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกว่า 29 ล้านคนแล้วในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

จีดีพีของมาเก๊าพุ่งสูงขึ้นจาก 6,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2542 เป็นมากกว่า 47,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 และประชากรของมาเก๊าเป็นประชากรที่ร่ำรวยที่สุดในจีนเมื่อพิจารณาจากจำนวนผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัว.

เพิ่มเพื่อน