ประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้คำมั่นสัญญาว่าจะสร้างมายอตขึ้นมาใหม่ ขณะที่ประชาชนโห่ร้องแสดงความไม่พอใจระหว่างที่เขาไปเยือนหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสโอบกอดผู้หญิงคนหนึ่งขณะร่วมพูดคุยกับประชาชนผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลน ระหว่างการเยือนเขตกาวานี ในเมืองมามูดซูของดินแดนมายอตในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม (Photo by Ludovic MARIN / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเดินทางลงพื้นที่เกาะมายอตซึ่งเป็นดินแดนในการปกครองที่เพิ่งประสบภัยพิบัติใหญ่จากการพัดถล่มของพายุไซโคลน 'ชิโด (Chido)'
ห้าวันหลังจากพายุทิ้งร่องรอยแห่งการทำลายล้างไว้เบื้องหลัง มาครงกล่าวว่าฝรั่งเศสจะสร้างโรงเรียน, บ้านเรือน และโรงพยาบาลขึ้นใหม่ที่นั่น รวมทั้งปราบปรามผู้อพยพที่ผิดกฎหมายด้วย
เขายังประกาศให้วันจันทร์ที่จะถึงนี้เป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติแก่เหยื่อจากภัยพิบัติครั้งนี้
ทีมฉุกเฉินยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและจัดหาความช่วยเหลือที่จำเป็น
แต่ขณะที่มาครงตรวจสอบความเสียหายบนดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ประชาชนผู้ประสบภัยก็แสดงความไม่พอใจต่อเขา
"ท่านประธานาธิบดี ไม่มีใครรู้สึกปลอดภัยที่นี่ ผู้คนกำลังแย่งน้ำกันอย่างเอาเป็นเอาตาย" หญิงคนหนึ่งบอกกับมาครงระหว่างที่เขาไปเยี่ยมศูนย์การแพทย์มามูดซู
และในขณะที่มาครงพูดคุยกับพนักงานโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็พูดเบาๆ ว่า "อีกสองวัน เราก็จะไม่เหลืออาหารไว้ให้ผู้ป่วยได้อีกแล้ว"
ชายคนหนึ่งในกลุ่มได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีใส่ใจกับการปล้นสะดม โดยกล่าวว่าโจรสามารถเข้าไปในบ้านที่หลังคาถูกพัดปลิวได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีเคอร์ฟิวทุกคืนก็ตาม
"ท่านประธานาธิบดี เรากลัวว่าสถานการณ์จะกลายเป็นเหมือนเฮติ" เขากล่าวโดยอ้างถึงประเทศแคริบเบียนที่ยากจนและเต็มไปด้วยอาชญากรรม ซึ่งอยู่ในภาวะฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมีนาคม
มาครงรับฟังเรื่องราวต่างๆ โดยสัมผัสแขนของผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้องไห้ เพื่อปลอบใจเธอ
"ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้คุณมีน้ำ, อาหาร และไฟฟ้า" มาครงกล่าว และเสริมว่าเขาตั้งเป้าที่จะจัดหาอาหารและน้ำให้กับทุกส่วนของหมู่เกาะภายในวันอาทิตย์เป็นอย่างช้าที่สุด และให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูมายอตโดยเร็ว
"ผมจะเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย ในขณะเดียวกันก็ฟื้นฟูโรงเรียน, บ้านเรือน และโรงพยาบาล ขออย่าได้กังวลว่ารัฐบาลจะละเลยพวกคุณ" ผู้นำฝรั่งเศสกล่าว
ระหว่างนั้นมีเยาวชนกลุ่มหนึ่งตะโกนเรียกร้องให้เขาลาออก เขาโต้แย้งว่า "ไม่ใช่ผมสิ ควรเป็นพายุไซโคลนมากกว่า"
การเยือนของมาครงเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลปารีสประกาศมาตรการ "ภัยพิบัติทางธรรมชาติขั้นรุนแรง" สำหรับพื้นที่มายอตเมื่อช่วงดึกของวันพุธ
ทั้งนี้ มายอตตั้งอยู่ใกล้กับมาดากัสการ์นอกชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของฝรั่งเศส
มาครงเดินทางมาโดยเครื่องบินที่บรรทุกแพทย์, พยาบาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพลเรือนประมาณ 20 คน รวมถึงอาหารและของใช้สุขอนามัยจำนวน 4 ตัน
ยอดผู้เสียชีวิตเบื้องต้นจากกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 31 รายและบาดเจ็บ 2,500 คน แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าตามความเป็นจริงแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึงหลายร้อยหรือหลายพันราย
"โศกนาฏกรรมของมายอตอาจเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา" นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรูกล่าว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฝรั่งเศสได้ประกาศเปิดใช้งานกลไกการป้องกันพลเรือนของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการตอบสนองภัยพิบัติร่วมกันของสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ
เพื่อตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลนในวงกว้าง รัฐบาลได้ออกกฤษฎีกาตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในหมู่เกาะดังกล่าวให้เท่ากับราคาก่อนเกิดพายุไซโคลน
นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พายุไซโคลนชิโดซึ่งพัดถล่มมายอตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นพายุลูกล่าสุดจากพายุหลายลูกทั่วโลกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ประมาณหนึ่งในสามของประชากรมายอตอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดซึ่งบ้านเรือนมุงด้วยแผ่นโลหะที่ไม่แข็งแรงพอสำหรับการป้องกันจากพายุ ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นในวงกว้างเพราะผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ การประเมินจำนวนผู้เสียชีวิตมีความซับซ้อนมากเนื่องจากมีผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเข้ามาในมายอต โดยเฉพาะจากหมู่เกาะคอโมโรสทางตอนเหนือ ซึ่งหมายความว่าประชากรส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทะเบียน
แม้ว่ามายอตจะมีประชากรอย่างเป็นทางการ 320,000 คน แต่ทางการประมาณการว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้เมื่อรวมผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารเข้าไปด้วยอีกระหว่าง 100,000 ถึง 200,000 คน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาครง และเนทันยาฮู ปะทะกันหลังเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพถูกโจมตีในเลบานอน
กองทัพอิสราเอลโจมตีฐานที่ตั้งของกองกำลัง ‘หมวกสีฟ้า’ ในเลบานอนหลายครั้ง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่ง