ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังมั่น จะสู้จนถึงนาทีสุดท้าย

แม้ถูกดำเนินคดีข้อหาก่อกบฏ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังคงยืนยันอย่างท้าทายว่าจะสู้จนถึงนาทีสุดท้าย เพื่อปกป้องการประกาศกฎอัยการศึกและส่งกองกำลังไปยึดรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้กล่าวแถลงที่สำนักงานประธานาธิบดีในกรุงโซล เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม (Photo by Handout / South Korean Presidential Office / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ ปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกครั้งในแถลงการณ์ผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ โดยระบุว่าจะขอสู้ในตำแหน่งจนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย

การประกาศกฎอัยการศึกและส่งกองกำลังไปยึดรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เขาถูกขับไล่จากประชาชนและถูกดำเนินคดีในข้อหาก่อการกบฏ แต่ยุนก็ยังไม่ยอมประกาศลาออกจากตำแหน่งตามความต้องการของประชาชนและยังใช้กลไกรัฐสภาทำให้ตัวเองรอดพ้นจากกระบวนการถอดถอนมาได้เมื่อวันเสาร์

ปัจจุบันผู้นำเกาหลีใต้ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนในข้อหาก่อการกบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกในช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม ซึ่งทำให้ประชาชนลุกฮือประท้วงจนถึงทุกวันนี้

ในแถลงการณ์ครั้งแรกก่อนการลงมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์ ยุนประกาศว่าจะร่วมต่อสู้กับประชาชนจนถึงนาทีสุดท้าย

ในคำแถลงทางโทรทัศน์ล่าสุด เขากล่าวหาว่าฝ่ายค้านผลักดันประเทศเข้าสู่ "วิกฤตระดับชาติ"

ยุนกล่าวว่า "สมัชชาแห่งชาติซึ่งถูกครอบงำโดยพรรคฝ่ายค้านขนาดใหญ่ ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ทำลายระเบียบรัฐธรรมนูญของประชาธิปไตยเสรีนิยม"

ยุนยังย้ำถึงเหตุผลในการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งเขากล่าวว่ามีขึ้นเพื่อปกป้องเกาหลีใต้จากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือและกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐ

"ผมขอโทษอีกครั้งต่อผู้คนที่ต้องประหลาดใจและวิตกกังวลเนื่องมาจากกฎอัยการศึก แต่ขอได้โปรดเชื่อใจผม" เขากล่าวเสริม

ทั้งนี้ การลงมติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันเสาร์นี้ ในเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และมติถอดถอนดังกล่าวจะต้องได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรครัฐบาลอย่างน้อย 8 คน จึงจะได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 ที่จำเป็นสำเร็จการลงคะแนน

ฮัน ดง-ฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชนเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมการประชุมและลงคะแนนเสียงตามความเชื่อมั่นและมโนธรรมของตน

"ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีได้อีกต่อไป และผมคิดว่าเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ" เขากล่าว

หลังเหตุวุ่นวายระหว่างตำรวจเกาหลีใต้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานประธานาธิบดี จากความพยายามเข้าตรวจค้นสำนักงานดังกล่าวเมื่อวันพุธ และพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักได้เตือนว่า หากยังมีการขัดขวางการบังคับใช้กฎหมายต่อไป พรรคฯจะยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่และหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีในข้อหาก่อกบฏด้วยเช่นกัน

ล่าสุด ตำรวจได้นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นอาคารสำนักงานประธานาธิบดีอีกครั้ง และมีรายงานว่าได้รับความร่วมมือในการดำเนินการเป็นอย่างดี.