จับผู้ต้องสงสัยพร้อมตั้งข้อหาฆาตกรรมผู้บริหารบริษัทประกันภัยสหรัฐฯ

ชายวัย 26 ปีถูกจับกุมและตั้งข้อหา จากการฆาตกรรมผู้บริหารบริษัทประกันสุขภาพบนถนนในนิวยอร์ก พ่วงด้วยคดีข้างเคียงอีกหลายกระทง

ลุยจิ มานจิโอเน ผู้ต้องสงสัยในเหตุสังหารซึ่งหน้าต่อไบรอัน ทอมป์สัน ผู้บริหารระดับสูงของ United Health Care บริษัทประกันภัยสุขภาพชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ถูกควบคุมตัวบนรถตำรวจ หลังถูกจับกุมได้ในรัฐเพนซิลเวเนีย (Photo by NYPD / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า จากเหตุสังหารซึ่งหน้าต่อไบรอัน ทอมป์สัน ผู้บริหารระดับสูงของ United Health Care บริษัทประกันภัยสุขภาพชั้นนำของสหรัฐอเมริกา โดยชายรายหนึ่งที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ล่าสุดตำรวจนิวยอร์กสามารถตามจับตัวได้แล้ว

ลุยจิ มานจิโอเน วัย 26 ปีถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 1 กระทง, ครอบครองอาวุธโดยผิดกฎหมาย 2 กระทง และความผิดอื่นๆ ตามเอกสารของศาลเพนซิลเวเนีย

เจ้าหน้าที่ยังคงสอบสวนมานจิโอเนเพิ่มเติมในความเชื่อมโยงกับการฆาตกรรมอุกอาจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการตามล่าตัวทั่วประเทศและพาดหัวข่าวไปทั่วโลก

มานจิโอเนถูกนำตัวขึ้นศาลเพนซิลเวเนียโดยสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเข้ม หลังเวลา 18.00 น. ของวันจันทร์ โดยมีนักสืบจากกรมตำรวจนิวยอร์กคอยประกบตลอดเวลา และมีรายงานว่าเขามีกำหนดมาขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 23 ธันวาคม

จอร์ช ชาปีโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียกล่าวว่า จะมีการตั้งข้อหาฆาตกรรมในรัฐนิวยอร์กตามมา

ขณะที่ตำรวจยังไม่ได้ระบุแรงจูงใจและยังไม่ยืนยันรายงานของนิวยอร์กไทมส์ที่ระบุถึงคำว่า "ชะลอ" และ "ปฏิเสธ" ซึ่งบริษัทประกันภัยมักใช้เพื่อปฏิเสธการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เขียนอยู่บนปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุย่านธุรกิจมิดทาวน์ซึ่งทอมป์สันเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมนักลงทุน โดยคาดกันว่าแรงจูงใจจากประเด็นนี้น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการก่ออาชญากรรม

รายงานประกอบของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า มานจิโอเนเคยประสบกับอาการปวดหลังอย่างรุนแรงและเข้ารับการผ่าตัดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นต้นเรื่องของความเกี่ยวข้องกับบริษัทประกันดังกล่าว

หลังถูกล่าตัวมาหลายวัน มานจิโอเนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เพราะเบาะแสจากพนักงานของร้านแมคโดนัลด์สาขาในเมืองอัลทูนา รัฐเพนซิลเวเนีย โดยพบว่าเขาสวมหน้ากากและหมวกพรางตัว และพยายามใช้บัตรประจำตัวปลอม

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าค้นตัวเขาและพบสิ่งที่ตำรวจเรียกว่า "ปืนผี" ที่สามารถยิงกระสุนขนาด 9 มม. และติดตั้งเครื่องเก็บเสียงที่สามารถทำได้ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าเขาไปนิวยอร์กมาเมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่ มานจิโอเนก็นิ่งเงียบลงและเริ่มตัวสั่น

ทั้งนี้ บัตรประจำตัวปลอมที่พบในตัวเขาใบหนึ่งเป็นเอกสารที่ใช้เช็คอินที่โฮสเทลในแมนฮัตตันก่อนก่อเหตุสังหาร

มานจิโอเนเกิดและเติบโตในรัฐแมริแลนด์, ศึกษาที่มหาวิทยาลัยไอวีลีกแห่งเพนซิลเวเนีย และเคยอาศัยอยู่ที่ฮาวาย

โปรไฟล์ LinkedIn ของเขาระบุว่า เขาทำงานเป็นวิศวกรข้อมูลที่ TrueCar ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายรถยนต์ออนไลน์ในแคลิฟอร์เนีย โดยระบุว่าเขาลาออกจากงานในปี 2566

เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ครอบครัวของเขาออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยระบุว่าพวกเขาตกใจและเสียใจอย่างยิ่งกับการจับกุมตัวลุยจิ มานจิโอเน

ในเหตุการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มือปืนเดินไปด้านหลังไบรอัน ทอมป์สัน และยิงเขาเสียชีวิตต่อหน้าผู้คนที่อยู่แถวนั้น

การสังหารครั้งนี้ถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิดและมีผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ชมภาพเหตุการณ์ ขณะที่ความสนใจในการตามล่าตัวและปริศนาแรงจูงใจของฆาตกรเพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ตำรวจกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยหลบหนีจากที่เกิดเหตุด้วยการเดินเท้าก่อนจะขี่จักรยานไปที่เซ็นทรัลพาร์ค และต่อมาขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งทางตอนเหนือของเมือง

มีการเปิดเผยภาพของผู้ต้องสงสัยจากโฮสเทลเยาวชนซึ่งมือปืนดูเหมือนจะพักอยู่ก่อนลงมือ โดยสื่อรายงานว่าเขาลดหน้ากากอนามัยลงเพื่อจีบพนักงานต้อนรับ

ระบบประกันสุขภาพของสหรัฐฯ ที่ทำกำไรมหาศาลเป็นที่มาของความหงุดหงิดและความโกรธแค้นอย่างมากในหมู่ชาวอเมริกันจำนวนมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงและความคุ้มครองที่จำกัด และการเสียชีวิตของทอมป์สันทำให้หลายคนไม่เห็นใจเขาเลย

โพสต์บนเฟซบุ๊กที่แสดงความอาลัยต่อการสูญเสียของเขา ซึ่งแชร์โดย United Health Group มีผู้กดอีโมจิหัวเราะมากกว่า 71,000 ครั้งภายในสองวัน ก่อนมีการลบโพสต์ดังกล่าวไปในภายหลัง

ล่าสุดตำรวจเปิดเผยว่า พบแถลงการณ์ที่ลุยจิ มานจิโอเนเขียนด้วยลายมือและระบุข้อร้องเรียนต่ออุตสาหกรรมประกันภัย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยแรงจูงใจในการก่อเหตุสังหาร

โจเซฟ เคนนี หัวหน้านักสืบของกรมตำรวจนิวยอร์กกล่าวในรายการโทรทัศน์ Good Morning America ว่า "ผมมีโอกาสได้อ่านแถลงการณ์ฉบับนี้ซึ่งมีการยืนยันว่าเป็นลายมือของเขา เขาแสดงออกบางอย่างว่าเขารู้สึกหงุดหงิดกับระบบการรักษาพยาบาลในสหรัฐฯ เชาตำหนิว่าระบบการรักษาพยาบาลของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในระบบที่แพงที่สุดในโลก แต่ประเทศนี้กลับมีประชาชนที่อายุขัยสั้นกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ"

เคนนียังกล่าวอีกว่า มานจิโอเนเขียนมากมายเกี่ยวกับความรังเกียจที่เขามีต่อองค์กรในอเมริกาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการรักษาพยาบาล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง