ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

กระทรวงยุติธรรมออกคำสั่งห้ามประธานาธิบดีเกาหลีใต้เดินทางออกนอกประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของกฎหมาย จากการที่ประธานาธิบดีถูกแจ้งข้อหาก่อกบฏ

ผู้ประท้วงถือป้ายที่มีข้อความว่า "ผู้นำกบฏ" บนรูปภาพใบหน้าของประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ ระหว่างเข้าร่วมการประท้วงเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง นอกรัฐสภาในกรุงโซล เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม (Photo by Philip FONG / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ผลจากการประกาศกฏอัยการศึกโดยมิชอบของประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล นอกจากจะทำให้ประชาชนเกาหลีใต้ลุกฮือขับไล่แล้ว เขายังถูกอัยการสั่งฟ้องดำเนินคดีทางกฏหมายในข้อหาก่อกบฏอีกด้วย

ยุนส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปที่รัฐสภาในคืนวันที่ 3 ธันวาคม ก่อนที่สมาชิกรัฐสภาจะลงมติให้เขายกเลิกคำสั่งดังกล่าวทันที

ผู้นำที่อยู่ในช่วงเสื่อมความนิยมรอดพ้นได้อย่างหวุดหวิดจากการลงมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์ แม้ว่าฝูงชนจำนวนมากจะยืนหยัดฝ่าอุณหภูมิอันหนาวเย็นเพื่อเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งก็ตาม

แม้จะยังอยู่ในตำแหน่ง แต่การดำเนินคดีจำนวนมากกำลังถาโถมเข้าหายุนและพันธมิตรใกล้ชิดของเขา โดยเฉพาะข้อหาหนักอย่างการก่อกบฏ

ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมยืนยันแล้วว่า ยุนได้กลายเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกที่ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

ขณะที่คิม ยง-ฮย็อน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่, อี ซังมิน อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย, พลเอก ปาร์ค อันซู เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปฏิบัติการกฎอัยการศึก และยอ อิน-ฮย็อง ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองกลาโหม ก็ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเช่นกัน เนื่องจากมีส่วนร่วมในเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การช่วยเหลือกันของส.ส. พรรคพลังประชาชนทำให้ยุนรอดพ้นการถูกถอดถอน แต่เขาก็ถูกริบอำนาจและบทบาท โดยนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคฯจะเป็นผู้ดำเนินภารกิจทางการเมืองและการบริหารประเทศชั่วคราว

ฝ่ายค้านได้ออกมาประท้วงกระบวนการถ่ายโอนอำนาจกันเองในพรรครัฐบาลว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นการก่อกบฏและการรัฐประหารครั้งที่สอง

ทั้งนี้ ภายใต้รัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ ประธานาธิบดียังคงเป็นหัวหน้ารัฐบาลและผู้บัญชาการทหารสูงสุด เว้นแต่ว่าประธานาธิบดีจะไร้ความสามารถ, ลาออก หรือถูกถอดถอนจากตำแหน่ง

แต่ในกรณีของยุน อำนาจได้ถูกมอบให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง

ฝ่ายค้านจึงเชื่อว่าการที่ยุนยังเป็นประธานาธิบดีต่อไป แต่ได้มอบอำนาจให้กับนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคพลังประชาชนซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้ง ถือเป็น "การละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างโจ่งแจ้งและไม่เป็นไปตามบทบัญญัติทางกฎหมาย"

กระทรวงกลาโหมยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า ยุนซึ่งตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงของเกาหลีใต้ แม้ว่าจะมีสุญญากาศทางอำนาจในประเทศที่ยังคงทำสงครามกับเกาหลีเหนือในทางเทคนิคก็ตาม

ยุนได้กล่าวขอโทษต่อประชาชนจากการกระทำของเขา แต่ไม่ได้ลาออก โดยกล่าวว่าเขาจะมอบการตัดสินใจเกี่ยวกับชะตากรรมของตนเองให้พรรคฯเป็นผู้ตัดสิน

เขายังกล่าวอีกว่าเขาจะยอมรับความรับผิดชอบทางการเมืองและทางกฎหมายทั้งหมดสำหรับความล้มเหลวของกฎอัยการศึก

ฝ่ายค้านยืนยันว่าพวกเขาจะพยายามถอดถอนยุนให้ได้ โดยอี แจ-มย็อง ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่าจะมีการลงคะแนนเสียงอีกครั้งในวันเสาร์ และคาดว่าฝูงชนจำนวนมากจะมารวมตัวกดดันหน้าอาคารรัฐสภาเช่นเคย

ปัจจุบันคะแนนนิยมของยุนลดลงเหลือ 11% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์สำหรับตำแหน่งประธานาธิบดี.