ถอดถอนล่ม ส.ส.รัฐบาลชิ่งรัฐสภาช่วยประธานาธิบดีเกาหลีใต้

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รอดพ้นกระบวนการถอดถอน หลังจากส.ส.พรรครัฐบาลคว่ำบาตรการลงคะแนนเสียง แม้ประชาชนจำนวนมากมารวมตัวประท้วงกดดันอยู่ด้านนอกรัฐสภา

ประชาชนเข้าร่วมการประท้วงเรียกร้องให้ถอดถอนยุน ซ็อก-ยอล จากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่หน้ารัฐสภาในกรุงโซล เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม (Photo by ANTHONY WALLACE / AFP)

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ กำลังโค้งคำนับหลังจากสิ้นสุดการกล่าวแถลงการณ์ขอโทษประชาชน ที่สำนักงานประธานาธิบดีในกรุงโซล เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม (Photo by Handout / South Korean Presidential Office / AFP)

ส.ส. อัน ชอล-ซู จากพรรคพลังประชาชนนั่งอยู่เพียงคนเดียวในฟากฝั่งรัฐบาลเพื่อรอลงคะแนนเสียงถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ที่รัฐสภาในกรุงโซล เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม (Photo by JEON HEON-KYUN / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า กระบวนการยื่นถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้มีอันต้องล่มไปในวันเสาร์ หลังจากส.ส.พรรครัฐบาลพร้อมใจคว่ำบาตรการลงคะแนนเสียง ทำให้กระบวนการไม่สามารถเกิดขึ้น เพราะเสียงสนับสนุนไม่ถึงสองในสามของจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด

เมื่อคืนวันอังคาร ยุน ซ็อก-ยอลสร้างความตกตะลึงให้กับประเทศและนานาชาติด้วยการประกาศกฎอัยการศึกเพื่อยึดอำนาจการปกครองของพลเรือนและส่งทหารไปควบคุมรัฐสภา แต่กลับถูกสมาชิกรัฐสภาจากพรรคฝ่ายค้านรวมตัวลงมติคัดค้านตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ประธานาธิบดีประกาศยกเลิกอัยการศึกในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเกาหลีใต้ทั่วประเทศ และพรรคฝ่ายค้านได้เสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดีต่อรัฐสภา

กระบวนการถอดถอนนั้นต้องการคะแนนเสียง 200 เสียงจากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 300 คนจึงจะสามารถโค่นล้มประธานาธิบดีได้ แต่การคว่ำบาตรโดยพรรคพลังประชาชนของยุน ซ็อก-ยอลทำให้ญัตติดังกล่าวล้มเหลว เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านมีเสียงเพียง 190 เสียงซึ่งไม่เพียงพอกับการสนับสนุนญัตติดังกล่าว

"จำนวนสมาชิกที่ลงคะแนนเสียงไม่ถึงสองในสามตามที่บทบัญญัติกำหนดไว้ ดังนั้นการยื่นลงมติถอดถอนประธานาธิบดีจึงเป็นโมฆะ" วู วอน-ชิก ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติกล่าว

เขากล่าวว่า คนทั้งประเทศและทั่วโลกกำลังเฝ้าดูอยู่ จึงเป็นอันน่าเสียดายอย่างยิ่งที่ไม่สามารถลงมติในประเด็นสำคัญระดับชาติเช่นนี้ได้ และนั่นหมายถึงความล้มเหลวในการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตยของพรรครัฐบาล

พรรคพลังประชาชนอ้างภายหลังคว่ำบาตรการลงมติถอดถอนว่า ต้องการหลีกเลี่ยงความแตกแยกและความวุ่นวายอย่างรุนแรง และทางพรรคฯจะแก้ไขวิกฤตินี้ในลักษณะที่เป็นระเบียบและรับผิดชอบมากขึ้น

ฮัน ดง-ฮุน หัวหน้าพรรคฯกล่าวว่า พรรคได้รับคำมั่นสัญญาของยุนที่จะขอลาออกเองเมื่อถึงเวลาเหมาะสม และจะเว้นวรรคการทำหน้าที่ในพรรค โดยปล่อยให้นายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคจัดการกิจการของรัฐต่อไป

การถอดถอนที่ไม่เกิดขึ้นทำให้ฝูงชนจำนวนมากผิดหวัง โดยตำรวจกรุงโซลระบุว่ามีผู้คนราว 150,000 - 1 ล้านคน ที่ออกมาชุมนุมประท้วงนอกรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้ยุนถูกขับออกจากตำแหน่ง

ผู้ชุมนุมโห่ร้อง ขณะที่บางคนถอนหายใจหรือถึงกับร้องไห้ด้วยความหงุดหงิดเมื่อสมาชิกรัฐสภาของพรรครัฐบาลเดินออกจากห้องประชุมสภาเมื่อถึงญัตติยื่นถอดถอน

ฝ่ายค้านได้ให้คำมั่นว่าจะพยายามยื่นถอดถอนประธานาธิบดีอีกครั้งในวันพุธ และผู้ประท้วงหลายคนให้คำมั่นว่าจะชุมนุมต่อไปในสุดสัปดาห์หน้า

อี แจ-มย็อง ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่า "ผมจะถอดถอนยุน ซ็อก-ยอลให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม"

หากญัตติดังกล่าวผ่าน ยุนจะถูกพักงานจากการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์พบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีลดลงเหลือเพียง 13% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ก่อนการลงคะแนนเสียงของสมาชิกรัฐสภา ยุน วัย 63 ปี ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และจะปล่อยให้พรรคฯเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมของเขา

"ผมทำให้ประชาชนวิตกกังวลและไม่สะดวก ผมขอโทษอย่างจริงใจ" เขากล่าวในการแถลงทางโทรทัศน์ ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกในรอบ 3 วัน

เขากล่าวว่า เขาจะมอบความไว้วางใจให้พรรคฯดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงวาระการดำรงตำแหน่งของเขาด้วย

ทั้งนี้ มีส.ส.จากพรรครัฐบาล 3 คนที่แหกมติพรรคด้วยการลงคะแนนเสียงร่วมถอดถอนประธานาธิบดี

ขณะที่นักวิเคราะห์ทางการเมืองเชื่อว่า การคว่ำบาตรการลงคะแนนเสียงของพรรครัฐบาลอาจทำให้การสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของยุนล่าช้าออกไป แต่ท้ายที่สุดก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี เพราะการดื้อรั้นมีแต่จะทำให้สถานการณ์ของพรรคยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น

ในกระบวนการทางกฎหมาย ฝ่ายตำรวจได้เริ่มสอบสวนยุนและผู้เกี่ยวข้องกับกฎอัยการศึกอื่นๆแล้ว ในข้อกล่าวหาก่อกบฏ โดยไม่คำนึงถึงผลการลงคะแนนเสียงของรัฐสภา.

เพิ่มเพื่อน