ไบเดนอภัยโทษให้ลูกชาย ในช่วงสุดท้ายของการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

โจ ไบเดนใช้อำนาจแห่งการเป็นประธานาธิบดีในการประกาศอภัยโทษอย่างเป็นทางการแก่ฮันเตอร์ ลูกชายของเขา ซึ่งกำลังเผชิญกับการพิพากษาโทษในคดีอาญาสองคดี

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ (ซ้าย) และฮันเตอร์ ไบเดน (Photo by Mandel NGAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศอภัยโทษอย่างเป็นทางการแก่ฮันเตอร์ ไบเดนซึ่งกำลังเผชิญกับการพิพากษาโทษในคดีอาญาสองคดี และให้การรับรองว่าเขาจะไม่เข้าไปแทรกแซงในปัญหาทางกฎหมายของลูกชาย

"เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในคดีของฮันเตอร์แล้ว มันสมเหตุสมผลที่จะสรุปได้ว่าฮันเตอร์ถูกเลือกปฏิบัติเพียงเพราะเขาเป็นลูกชายของผม ซึ่งนั่นไม่ถูกต้อง" ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์

ความคลื่อนไหวของผู้นำสหรัฐจะนำมาซึ่งการตรวจสอบใหม่เกี่ยวกับความเป็นอิสระของระบบตุลาการของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ดำเนินการแต่งตั้งคนใกล้ชิดเป็นหัวหน้าเอฟบีไอและหัวเรือกระทรวงยุติธรรมด้วยตัวเอง

ฮันเตอร์ ไบเดนถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานให้การเท็จเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดเมื่อต้นปีนี้จากกรณีซื้อปืน ซึ่งเป็นความผิดอาญา และยังรับสารภาพในคดีเลี่ยงภาษีอีกคดีหนึ่ง แต่ไม่ถูกตัดสินโทษ

ก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ซึ่งอยู่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เคยกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาจะไม่อภัยโทษให้ลูกชาย

อย่างไรก็ตาม ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า "ผมบอกว่าผมจะไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจของกระทรวงยุติธรรม และผมรักษาคำพูดของตัวเองแม้ผมจะเห็นว่าลูกชายของผมถูกดำเนินคดีอย่างเลือกปฏิบัติและไม่ยุติธรรมก็ตาม"

"ข้อกล่าวหาในคดีของเขาเกิดขึ้นหลังจากที่คู่ต่อสู้ทางการเมืองของผมหลายคนในรัฐสภา ได้ยุยงให้พวกเขาโจมตีผมและต่อต้านการเลือกตั้งของผม"

"ผมเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมเสมอ แต่เมื่อจำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนกับเรื่องนี้ ผมก็เชื่อว่าการเมืองที่โหดร้ายได้แพร่ระบาดไปยังกระบวนการดังกล่าว และนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด" ไบเดนกล่าวเสริม

การอภัยโทษดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่คดีอาญาต่อโดนัลด์ ทรัมป์หยุดชะงักลงเช่นกัน หลังจากที่ศาลสูงได้ตัดสินให้ใช้เอกสิทธิ์คุ้มกันประธานาธิบดีอย่างครอบคลุม ซึ่งแทบจะรับประกันได้ว่าทรัมป์จะไม่ต้องเข้าคุกเลย แม้ว่าเขาจะถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจเมื่อเดือนพฤษภาคมก็ตาม

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เคยใช้การอภัยโทษเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวและพันธมิตรทางการเมืองอื่นๆ มาแล้วในอดีต

บิล คลินตันเคยอภัยโทษให้พี่ชายต่างมารดาของเขาในข้อหายาเสพติด และทรัมป์เองก็เคยอภัยโทษให้พ่อของลูกเขยในข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี แม้ว่าในทั้งสองกรณี บุคคลเหล่านั้นได้พ้นโทษจำคุกไปแล้วก็ตาม

สำหรับการดำรงตำแหน่งวาระที่สอง ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะอภัยโทษให้ผู้สนับสนุนที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในเหตุจลาจลนองเลือดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 หลังการไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ต่อไบเดนในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

ทรัมป์โพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาต่อการอภัยโทษฮันเตอร์ ไบเดน โดยเขียนว่า "การอภัยโทษที่โจให้แก่ฮันเตอร์นั้น หากไม่รวมถึงผู้ที่ถูกคุมขังมาหลายปีจากคดีบุกรัฐสภา ถือเป็นการล่วงละเมิดและยุติธรรมอย่างร้ายแรง!"

ฮันเตอร์ ไบเดนสารภาพผิดในคดีเลี่ยงภาษีเมื่อเดือนกันยายน โดยอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 17 ปี ส่วนข้อหาอาวุธปืนอาจทำให้เขาต้องโทษจำคุกถึง 25 ปี

ทนายความของฮันเตอร์กล่าวว่า ฮันเตอร์ถูกนำตัวขึ้นศาลเพียงเพราะเขาเป็นลูกชายของประธานาธิบดี

ฮันเตอร์ได้จ่ายภาษีย้อนหลังทั้งหมดแล้ว รวมถึงค่าปรับที่เรียกเก็บโดยเจ้าหน้าที่ และก่อนหน้านี้ก็ได้บรรลุข้อตกลงรับสารภาพที่จะทำให้เขาไม่ต้องติดคุก แต่ข้อตกลงนั้นก็ล้มเหลวในนาทีสุดท้าย

คดีของเขาเป็นความด่างพร้อยต่อครอบครัวไบเดนมาช้านาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีการเลือกตั้งนี้ เมื่อพรรครีพับลิกันกล่าวหาว่าคดีของฮันเตอร์ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่จริงจัง แต่การที่ประธานาธิบดีไบเดนถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี พรรครีพับลิกันจึงลดความกระตือรือร้นที่จะเอาเรื่องของฮันเตอร์มาใช้โจมตี

อย่างไรก็ตาม อัยการดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะผ่อนปรนให้ฮันเตอร์ โดยเชื่อว่าฮันเตอร์ ไบเดนยอมรับผิดเพื่อให้ได้รับโทษเบาลง ทั้งๆที่ยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์มาตลอด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เอวา ลองโกเรีย’ หันหลังให้กับสหรัฐฯ หลังชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์

ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เอวา ลองโกเรีย สนับสนุนกมลา แฮร์ริสอย่างเสียงดังฟังชัด กระทั่งหลังการเลือกตั้งซึ่งโดนัลด์

'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ