คู่รักเพศเดียวกันในฮ่องกงได้รับสิทธิในการอยู่อาศัยและมรดก

ชุมชน LGBTQ ในฮ่องกงได้รับชัยชนะครั้งสำคัญ ภายหลังศาลได้ยืนยันสิทธิในการอยู่อาศัยและมรดกของคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งเป็นการหักล้างนโยบายของรัฐบาล

นิค อินฟิงเกอร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อคำตัดสินล่าสุดเกี่ยวกับคู่รักเพศเดียวกัน นอกศาลอุทธรณ์ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน (Photo by Peter PARKS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ฮ่องกงพิพากษาให้คู่รักเพศเดียวกันในกลุ่ม LGBTQ ได้รับสิทธิในการอยู่อาศัยและการจัดการมรดกของกันและกัน หลังจากต่อสู้กับนโยบายและวิธีปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมของรัฐบาลมาตลอด

คำพิพากษาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคำตัดสินสำคัญในปี 2566 โดยศาลเดียวกันนี้ซึ่งไม่อนุญาตให้การแต่งงานเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่ให้เวลารัฐบาล 2 ปีในการจัดทำ "กรอบกฎหมายทางเลือก" เพื่อปกป้องสิทธิของคู่รักดังกล่าว

คำพิพากษาในวันอังคารถือเป็นการสิ้นสุดการต่อสู้ทางกฎหมายที่กินเวลานานถึง 6 ปี หลังจากที่นิค อินฟิงเกอร์ ชาวฮ่องกงรายหนึ่ง ยื่นฟ้องรัฐบาลต่อศาล จากเหตุที่เขาและคู่ครองถูกห้ามไม่ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของรัฐด้วยเหตุผลว่าพวกเขาไม่ใช่ "ครอบครัวตามวิถีปกติ"

ต่อมาคดีนี้ได้รับการพิจารณาร่วมกับคดีของเฮนรี่ หลี่ และเอ็ดการ์ อึ้ง คู่รักเพศเดียวกันซึ่งท้าทายนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับสิทธิในที่อยู่อาศัยและกฎเกณฑ์การรับมรดกที่ห้ามการตกทอดสู่คู่ครองเพศเดียวกัน

ภายหลังศาลตัดสิน อินฟิงเกอร์แสดงความยินดีด้วยการโบกธงสีรุ้งด้านนอกศาลและขอบคุณคู่ครองของเขา

เขากล่าวว่าฮ่องกงจะต้องใช้เวลาสักพักในการรับรองสิทธิเพิ่มเติมสำหรับชุมชน LGBTQ

เขาบอกกับนักข่าวว่า "ผมหวังว่าฮ่องกงจะมีความเท่าเทียมและยุติธรรมมากขึ้น คำตัดสินของศาลในวันนี้ถือเป็นการยอมรับว่าคู่รักเพศเดียวกันสามารถรักกันได้และสมควรที่จะอยู่ร่วมกัน"

อินฟิงเกอร์ชื่นชมศาลแต่กล่าวว่าเขายังคง "มองโลกในแง่ร้ายเล็กน้อย" ที่ศาลฮ่องกงยังไม่เปิดกว้างได้เทียบเท่ากับศาลอย่างไต้หวันและไทยในการคุ้มครองสิทธิของกลุ่ม LGBTQ อย่างเต็มรูปแบบ

ขณะที่เฮนรี่ หลี่ ได้เปิดเผยจดหมายที่เขียนและส่งถึงเอ็ดการ์ อึ้งซึ่งเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายในปี 2563 โดยระบุว่าเขา "รู้สึกขอบคุณ" สำหรับคำตัดสินดังกล่าว

"ผมต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดชีวิต แต่ไม่เคยละทิ้งความปรารถนาของคุณที่ต้องการความเท่าเทียมกัน... ผมหวังว่าคุณจะยังคงได้ยินคำยืนยันของเราเกี่ยวกับคุณ" เนื้อความในจดหมายระบุ

ก่อนหน้านี้ อินฟิงเกอร์และหลี่เคยชนะคดีในศาลชั้นต้น แต่เมื่อต้นปี รัฐบาลได้อุทธรณ์คดีนี้ไปยังศาลอุทธรณ์ จนกระทั่งศาลได้มีมติเอกฉันท์ยกฟ้องการอุทธรณ์ในที่สุด

แอนดรูว์ เฉิง ประธานผู้พิพากษากล่าวว่า นโยบายที่กีดกันคู่รักเพศเดียวกันออกจากอพาร์ทเมนต์ให้เช่าของรัฐและอพาร์ทเมนต์สร้างขายที่ได้รับเงินอุดหนุนภายใต้โครงการ Home Ownership Scheme ของฮ่องกงนั้น "ไม่สมเหตุสมผล"

"สำหรับคู่รักเพศเดียวกันที่ขัดสนและไม่สามารถหาเงินเช่าที่พักส่วนตัวได้ นโยบายกีดกัน (ของรัฐบาล) อาจทำให้พวกเขาสูญเสียโอกาสที่สมจริงในการใช้ชีวิตครอบครัวภายใต้ชายคาเดียวกัน" ประธานผู้พิพากษากล่าว

ทั้งนี้ อพาร์ทเมนต์สาธารณะของรัฐมีอยู่ประมาณ 28% จากประชากรทั้งหมด 7.5 ล้านคน

ในประเด็นเรื่องมรดก ผู้พิพากษาอธิบายว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่นั้นเป็นการเลือกปฏิบัติและขัดต่อรัฐธรรมนูญ และยังกล่าวอีกว่าทางการไม่สามารถหาเหตุผลเพียงพอมาสนับสนุนการปฏิบัติที่แตกต่างกันต่อคู่รักเพศเดียวกันได้

ภายใต้กฎหมาย คู่รักเพศเดียวกันไม่สามารถรับประโยชน์จากกฎการตายโดยไม่มีพินัยกรรมที่ใช้กับ "สามี" และ "ภรรยา" เมื่อต้องแบ่งมรดกของผู้เสียชีวิต

นักวิชาการของมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงกล่าวว่า การที่ศาลไม่ยอมรับเหตุผลของรัฐบาลในการกีดกันคู่รักเพศเดียวกัน ถือเป็นวิธีการปกป้องสถาบันการสมรส

"คำตัดสินล่าสุด รวมถึงกรณีที่คล้ายคลึงกันในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลล้มเหลวในการให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือต่อศาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์การปฏิบัติที่แตกต่างกันต่อประสบการณ์ของคู่รักเพศเดียวกันในด้านต่างๆ ของชีวิต" นักวิชาการกล่าว

กลุ่มรณรงค์ Hong Kong Marriage Equality ชื่นชมคำตัดสินดังกล่าวของศาล และเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการกีดกันคู่รักเพศเดียวกันจากการสมรสทันที

การสนับสนุนการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันในฮ่องกงเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และแตะระดับ 60% เมื่อปีที่แล้ว ตามผลสำรวจที่จัดทำร่วมกันโดยมหาวิทยาลัยสามแห่ง

มีประเทศมากกว่า 30 แห่งทั่วโลกที่ได้ออกกฎหมายให้การแต่งงานถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกคน นับตั้งแต่เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายดังกล่าวในปี 2544

แน่นอนว่าจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศเหล่านั้น และยังไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนในการต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อคนเพศเดียวกัน

นักเคลื่อนไหว LGBTQ กล่าวว่าพวกเขาหวังว่ากรอบการทำงานที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ของฮ่องกงจะสามารถปกป้องสิทธิต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นแทนที่จะพึ่งพาชัยชนะจากการฟ้องร้องต่อศาล

ขณะที่รัฐบาลเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ไม่นานว่า กำลังศึกษาประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและกำหนดรายละเอียดการนำไปปฏิบัติ ในการปกป้องสิทธิทางกฎหมายของคู่รักเพศเดียวกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จักรภพ'ตีปี๊บ22 ม.ค.2568 วันที่LGBTQ+ ต้องจารึก

'จักรภพ' ชี้ 22 มค.68 เป็นวันประวัติศาสตร์โลก เมื่อประเทศไทยจะมี พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก จวก 'ทรัมป์' ประกาศต่อต้าน LGBTQ+ เอาใจคนกลุ่มเดียว เชื่อ แค่เห่าดังแต่ไม่กัดจริง

'จิรายุ' สะกิดส่วนราชการเร่งทำความเข้าใจกฎหมายสมรสเท่าเทียม

'จิรายุ' แนะส่วนราชการทำความเข้าใจกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมประชาสัมพันธ์ ปชช. ก่อนบังคับใช้ เหตุเกี่ยวพันทั้งอาญาและแพ่ง มีผลต่อชีวิตคู่รูปแบบใหม่ทั้งสินสมรส -บุตรบุญธรรม

กลุ่ม LGBTQ ยังไม่เข้าใจกม.สมรสเท่าเทียม

นายนพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง เสียงของ LGBTQiA+ กรณีศึกษาตัวอย่างกลุ่ม LGBTQiA+ ทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)

'อ้อย จิระวดี' ควงลูกชาย 'พอชตี้ค์' เคลียร์ปมในใจโดนล้อมีแม่เป็นทอม

"อ้อย จิระวดี" นักแสดงรุ่นเก๋าที่วันนี้ขอเปิดเรื่องราวในอดีตหลังประกาศตนว่าเป็นทอม แม้ตอนนั้นกำลังเป็นนางเอกชื่อดัง ลั่นขอเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด พร้อมควงลูกชายสุดหล่อ พอชตี้ค์ ณัฏฐพล เคลียร์ปมในใจวัยเด็กหลังโดนเพื่อนล้อมีแม่เป็นทอม

เปิดตัวทุเรียนสาลิกาสีรุ้ง ฉลองเดือน Pride Month กระตุ้นท่องเที่ยวใต้ช่วง Green Season

นางรุ่งทิพ ว่องปฏิการ คิมูระ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) พร้อมด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานพังงา จัดกิจกรรมโครงการ Internal Southern