สี จิ้นผิงและไบเดนจะพบปะกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเริ่มยุคสมัยแข็งกร้าวของทรัมป์

สี จิ้นผิงและโจ ไบเดนจะพบปะกันครั้งสุดท้ายในฐานะผู้นำ โดยมีช่วงเวลาอันปั่นป่วนที่รออยู่ข้างหน้าจากการกลับสู่ทำเนียบขาวของโดนัลด์ ทรัมป์

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ (บนสุด คนที่สองจากขวา) และผู้นำคนอื่นๆ ร่วมถ่ายภาพหมู่ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน (Photo by SAUL LOEB / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเดินทางมาถึงกรุงลิมา ประเทศเปรู เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือ เอเปค 2024 ในวันที่สองและวันสุดท้าย ร่วมกับผู้นำโลกอีกหลายชาติ ในบรรยากาศที่ถูกบดบังด้วยแนวโน้มของสงครามการค้าครั้งใหม่และการเปลี่ยนแปลงทางการทูตเมื่อการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มขึ้น

การกลับมาของทรัมป์ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความพยายามที่เริ่มขึ้นในการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสีและไบเดนในแคลิฟอร์เนียเมื่อปีที่แล้ว เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและปักกิ่ง

ทำเนียบขาวกล่าวว่า การประชุมครั้งสุดท้ายของสีและไบเดนในระหว่างการประชุมสุดยอดเอเปค จะมุ่งเน้นไปที่ "ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอันละเอียดอ่อน" และการทำให้แน่ใจว่าการแข่งขันกับจีนจะไม่กลายเป็นความขัดแย้ง

ชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งของทรัมป์เหนือกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตส่งคลื่นความตกตะลึงไปทั่วโลก และครอบงำการประชุมของผู้นำประเทศในกลุ่มเอเปค 21 ประเทศ

ก่อนการประชุมแบบพบหน้ากันซึ่งกำหนดไว้ในเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไบเดนและสีจะเข้าร่วมหารือแบบปิดห้องกับผู้นำจากประเทศต่างๆ รวมถึงแคนาดา, ชิลี, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย และญี่ปุ่น

สี จิ้นผิงและไบเดน ซึ่งจะพบกันเป็นครั้งที่สาม ได้กล่าวแถลงการณ์แยกกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญของโลก

ประธานาธิบดีจีนย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับ "การกีดกันทางการค้า" ที่เพิ่มมากขึ้น และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเอเปค "สามัคคีและร่วมมือกัน" ในคำกล่าวที่เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี

ขณะที่ไบเดนกล่าวว่า โลกได้เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ

ทรัมป์ มหาเศรษฐีจากพรรครีพับลิกัน ได้ส่งสัญญาณถึงแนวทางการเผชิญหน้ากับรัฐบาลปักกิ่ง โดยขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 60% เพื่อปรับในสิ่งที่เขากล่าวว่าเป็นความไม่สมดุลทางการค้า

เขายังได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีความขึงขังต่อจีน 2 คนในทีมงานใกล้ชิดของเขา รวมถึงมาร์โก รูบิโอที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ

ในขณะที่ไบเดนเร่งกอบกู้มรดกนโยบายต่างประเทศของเขาให้ได้มากที่สุด เขาก็ได้พบกับผู้นำญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในเอเชีย

ไบเดนกล่าวว่าความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ กับทั้งสองประเทศมีความสำคัญต่อ "การต่อต้านความร่วมมือที่อันตรายและก่อให้เกิดความไม่มั่นคงระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย" จากกรณีรัฐบาลเปียงยางส่งทหารไปช่วยสู้รบในยูเครน

การกลับมาของนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของทรัมป์ได้คุกคามพันธมิตรที่ไบเดนสร้างขึ้นในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่สงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการค้า

ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก ทรัมป์ขู่ว่าจะตัดลดพันธกรณีการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ ที่มีต่อพันธมิตรในเอเชียและยุโรป หากพันธมิตรเหล่านี้ไม่แบกรับภาระทางการเงินในการปกป้องพวกเขาให้มากขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการขู่ของทรัมป์ที่จะขึ้นภาษีศุลกากรจะไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสหรัฐฯ และพันธมิตรทางการค้าด้วย

นอกจากนี้ยังอาจคุกคามเสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์อีกด้วย

จีนกำลังสร้างขีดความสามารถทางทหารในขณะที่เพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันที่ปกครองตนเอง ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตน

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า สี จิ้นผิงและไบเดนจะหารือกันเกี่ยวกับไต้หวันและความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ซึ่งปักกิ่งอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนทางทะเลจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นแสดงความกังวลอย่างจริงจังเกี่ยวกับกิจกรรมที่เพิ่มมากขึ้นของกองทัพจีน ในการประชุมนอกรอบกับสี จิ้นผิง ตามรายงานของกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น

การประชุมสุดยอดสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ด้วยฉันทามติเกี่ยวกับ "โรดแมปลิมา" ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การผนวกรวมผู้ประกอบอาชีพอิสระในภูมิภาคเอเปคเข้ากับเศรษฐกิจระดับโลกอย่างเป็นทางการ

ดีนา โบลูอาร์เต ประธานาธิบดีของประเทศเจ้าภาพ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โรดแมปดังกล่าวถือเป็นผลงานที่สำคัญที่สุดของการประชุมสุดยอดเอเปคเปรู 2024

ทั้งนี้ หลังจากการประชุมสุดยอดเอเปค ความกังวลต่อการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของทรัมป์จะยังคงส่งผลต่อวาระการทูตระหว่างประเทศในการเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศที่กำลังดำเนินการอยู่ในอาเซอร์ไบจาน และการประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองริโอเดอจาเนโรในสัปดาห์หน้า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แพทองธาร' หารือทวิภาคี 'สี จิ้นผิง' จีนยันสนับสนุนไทยในเวทีระดับโลกทุกมิติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 15 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ประเทศเปรู ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โรงแรม Delfines Hotel

'นายกฯอิ๊งค์' สวมผ้าไหมไทย ถก 'ปธน.เปรู' ผลักดัน FTA ให้เสร็จปี 68

นายกฯ สวมผ้าไหมไทยศูนย์ศิลปาชีพ ถก 'ประธานาธิบดีเปรู' ผลักดันการเจรจา FTA ให้เสร็จภายในปี 68 ปลี้ม Softpower หนังไทย เพลงไทย ฮิตในเปรู