ภัยพิบัติจากพายุในสเปนซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย สร้างความไม่พอใจให้พลเมืองทั้งประเทศ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน ทรงวางแผนเสด็จเยือนพื้นที่ภัยพิบัติอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีสมเด็จพระราชินีเลติเซียร่วมเสด็จ
หนึ่งสัปดาห์หลังจากเกิดจลาจลระหว่างการเสด็จเยือนครั้งแรก สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 มีพระประสงค์จะเสด็จเยือนพื้นที่ประสบภัยอีกครั้งในวันอังคาร พระองค์จะเสด็จเยือนแคว้นบาเลนเซีย ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก “พายุแห่งศตวรรษ” ตามประกาศของสำนักพระราชวังในกรุงมาดริด
มีรายงานว่า ครั้งนี้สมเด็จพระราชินีเลติเซียจะไม่ร่วมเสด็จด้วย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งสองพระองค์ถูกปาโคลนและก่นด่าที่เมืองไปปอร์ตา ไม่ไกลจากเมืองหลวงของจังหวัดบาเลนเซีย
กษัตริย์วัย 56 พรรษาประสงค์จะควบคุมดูแลงานกอบกู้และทำความสะอาดพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งยังคงดำเนินการอย่างขะมักเขม้น เจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 8,500 นายและเจ้าหน้าที่ 10,000 นายจากสำนักตำรวจแห่งชาติจะปฏิบัติหน้าที่ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบประมาณ 80 แห่ง อาคารจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงได้หรือเข้าถึงได้ยาก เนื่องจากทางเข้าบางส่วนยังถูกปิดกั้นโดยรถยนต์และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่เสียหาย
จากการประเมินล่าสุดของรัฐบาลกลาง พบว่ามีฝนตกหนัก แผ่นดินถล่ม และน้ำท่วม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 220 ราย มี 212 ศพถูกค้นพบในบาเลนเซียเพียงแห่งเดียว และมีผู้เสียชีวิต 8 รายในพื้นที่ใกล้แคว้นคาสตีล-ลามันชาและอันดาลูเซีย ขณะนี้จำนวนผู้สูญหายอย่างเป็นทางการในบาเลนเซียลดลงจาก 50 เหลือ 41 ราย นอกจากนี้ยังรวมถึง 19 ศพที่ยังไม่มีการระบุอัตลักษณ์ด้วย
11 วันหลังจากเกิดภัยพิบัติ ความไม่พอใจและการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ของรัฐยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือที่ล่าช้า เมื่อเย็นวันเสาร์ผู้คนราว 130,000 คนพากันไปรวมตัวกันที่ใจกลางเมืองบาเลนเซีย เมืองหลวงของภูมิภาค เพื่อเรียกร้องให้คาร์ลอส มาซอน-ประธานาธิบดีแคว้น ลาออกจากตำแหน่ง องค์กร 65 แห่ง รวมถึงโครงการริเริ่มของประชาชนและสหภาพแรงงาน เรียกร้องให้มีการชุมนุม โดยผู้เข้าร่วมต่างร้องตะโกน “ฆาตกร ฆาตกร” และ “ลาออก ลาออก”
การปะทะเกิดขึ้นหลังการชุมนุม เป็นภาพวิดีโอแสดงบนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ Las Provincias ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ กลุ่มหัวรุนแรงร่วมขบวนในตอนท้ายของการชุมนุมประท้วงอย่างสันติ จากนั้นพวกเขาได้ขว้างปาก้อนหิน ขวด และภาชนะติดไฟใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
บ้างก็พยายามบุกโจมตีอาคารของรัฐและจุดไฟเผาหน้าทางเข้าหลัก จึงมีการจับกุมถึงสี่ครั้ง ตามรายงานของสื่อ ผู้ประท้วงขว้างปาโคลนใส่อาคาร ใช้โคลนและสีป้ายบริเวณส่วนหน้าของอาคาร และเขียนคำด่าประธานาธิบดีประจำภูมิภาค
คาร์ลอส มาซอนถูกกล่าวหาว่าเขาได้รับคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงเช้าของวันที่ 29 ตุลาคมแล้ว ทว่าเขากลับสั่งการให้แจ้งเตือนประชาชนในตอนเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำในแม่น้ำเริ่มล้นตลิ่ง และเริ่มเกิดเหตุน้ำท่วมรุนแรงแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผอ.ศปช. สั่งเกาะติดฝนถล่มภาคใต้สัปดาห์นี้ เสี่ยงวาตภัยน้ำท่วมฉับพลันใน 10 จังหวัด
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า หลังวานนี้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมือง และ ศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้
พยากรณ์ 10 วันล่วงหน้า ตั้งแต่ 18 พ.ย. อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้ง
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 15 -24 พ.ย. 67
กรมอุตฯ ประกาศเตือนพายุ 'โทราจี' ฉบับสุดท้าย
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “โทราจี” ฉบับที่ 10 โดยมีใจความว่า