กลุ่มแบ่งแยกดินแดนปากีสถานอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟในแคว้นบาลูจิสถานทางตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย รวมถึงทหาร 14 นาย
สัมภาระของผู้โดยสารกระจัดกระจายอยู่บนชานชาลา หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟในเมืองเควตตา แคว้นบาลูจิสถาน ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน (Photo by Banaras KHAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟในแคว้นบาลูจิสถานทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย รวมถึงทหาร 14 นาย
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ผู้โดยสารกำลังรออยู่บนชานชาลาที่สถานีรถไฟหลักในเมืองหลวงของจังหวัดเควตตา
"เจ้าหน้าที่กองทัพ 14 นายอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน 26 ราย" มูฮัมหมัด บาโลช เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระดับสูงกล่าว
นักข่าวเอเอฟพีพบเห็นกองเลือดและสัมภาระฉีกขาดที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งแผ่นโลหะขนาดใหญ่ที่ชานชาลาผู้โดยสารพังเสียหายเกือบหมด
โฆษกของโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งกล่าวว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดหลายสิบคนถูกนำตัวมายังโรงพยาบาล รวมถึงศพผู้เสียชีวิตอีกหลายศพ
แม้จะมีการโจมตีบ่อยครั้งในบาลูจิสถาน แต่ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดเมื่อวันเสาร์นั้นสูงเป็นพิเศษในจังหวัดซึ่งอยู่ติดชายแดนอัฟกานิสถานและอิหร่าน
เหตุระเบิดที่สถานีรถไฟเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. และกองทัพปลดปล่อยบาลูจซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มแบ่งแยกดินแดนหลักของพื้นที่ ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
สำนักข่าว Associated Press of Pakistan ซึ่งเป็นสำนักข่าวทางการ อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่การรถไฟว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นใกล้กับห้องจำหน่ายตั๋วในขณะที่รถไฟ 2 ขบวนมีกำหนดออกเดินทาง
นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีดังกล่าว
"ผู้ก่อการร้ายที่ทำร้ายพลเรือนผู้บริสุทธิ์และไม่มีทางสู้ จะต้องได้รับผลที่ตามมาอย่างแสนสาหัส" เขากล่าวในแถลงการณ์
กองทัพปลดปล่อยบาลูจอ้างว่าโจมตีจนมีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้งต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือชาวปากีสถานจากจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะชาวปัญจาบ
ที่สถานีตำรวจเควตตา ตำรวจกล่าวว่าพวกเขากำลังดำเนินการหาสาเหตุของการระเบิด
"เมื่อเราไปถึงที่นั่น ในตอนแรกดูเหมือนว่าวัตถุระเบิดอาจถูกซ่อนไว้หรือทิ้งไว้ในกระเป๋าเดินทาง แต่ตอนนี้เราคิดว่าอาจเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย" ตำรวจกล่าวกับนักข่าว
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง, เจ้าหน้าที่กู้ภัย และผู้โดยสารกำลังรื้อค้นกระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งไว้บนชานชาลา โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยติดอาวุธครบมือคอยเฝ้าอยู่
ในอดีต กลุ่มก่อการร้ายได้โจมตีโครงการพลังงานที่ใช้เงินทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน โดยกล่าวหาว่าบุคคลภายนอกใช้ประโยชน์จากภูมิภาคที่อุดมด้วยทรัพยากรแห่งนี้โดยกีดกันประชาชนในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดของปากีสถาน
ในเดือนสิงหาคม กองทัพปลดปล่อยบาลูจอ้างว่าโจมตีหลายครั้งโดยฝีมือของผู้ก่อเหตุหลายสิบคน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 39 ราย ถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคนี้.