ชาวคิวบากำลังประเมินความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอริเคนราฟาเอลซึ่งพัดถล่มและทำให้ทั้งเกาะมืดมิด แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้
ผู้คนเดินอยู่บนถนนที่มืดมิด เนื่องจากไฟฟ้าดับเพราะการพัดถล่มของพายุเฮอริเคน 'ราฟาเอล' ในกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน (Photo by Yamil LAGE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า พายุ 'ราฟาเอล' พัดถล่มทางตะวันตกของคิวบาเมื่อวันพุธในฐานะเฮอริเคนระดับ 3 ที่มีความรุนแรง และใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งในการสร้างความเสียหาย ก่อนลดความรุนแรงลงเมื่อเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก
พายุเฮอริเคน 'ราฟาเอล' เกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากพายุเฮอริเคน 'ออสการ์' มาเยือนเกาะแห่งนี้และทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย รวมทั้งเป็นสาเหตุให้ไฟฟ้าดับทั่วประเทศนาน 4 วัน
ประธานาธิบดีมิเกล ดิอาซ-คาเนล ของคิวบากล่าวว่า จังหวัดอาร์เตมิซา, ฮาวานา และมายาเบเก ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการพัดถล่มของราฟาเอล
"ทางการกำลังดำเนินการฟื้นฟูพลังงานในพื้นที่ตอนกลางและตะวันออกของประเทศ และกำลังประเมินความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานทางตะวันตก เพื่อเริ่มฟื้นฟูพลังงานที่นั่นเช่นกัน" ผู้นำคิวบากล่าว
ในกรุงฮาวานา ประชาชนช่วยกันเก็บกวาดกิ่งไม้, ขยะ, โคลน และเศษซีเมนต์ออกจากท้องถนน หลังพายุพัดผ่านไป
ทางหลวงทางตะวันตกจากเมืองหลวงไปยังอาร์เตมิซาเต็มไปด้วยเสาไฟฟ้าที่หักโค่น และถนนในเมืองต่างๆ ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยกิ่งไม้, กระเบื้อง และเศษคอนกรีตจากบ้านเรือนที่เสียหาย
แม้พายุเฮอริเคนเคลื่อนตัวออกไปแล้ว แต่พลังงานไฟฟ้ายังไม่กลับคืนมา ทำให้ครัวเรือนต้องอยู่ในความมืดอีกครั้ง และเริ่มขาดน้ำดื่มน้ำใช้
คิวบาประสบปัญหาไฟฟ้าดับเป็นเวลานานหลายชั่วโมงมาหลายเดือน ซึ่งเป็นสถานการณ์บ่งชี้วิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของเกาะแห่งนี้ นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นพันธมิตรและผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินรายสำคัญ ในช่วงต้นทศวรรษ 1990
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องอีกครั้งให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าที่ดำเนินมายาวนานหกทศวรรษต่อประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้.