โดนัลด์ ทรัมป์ใกล้จะเอาชนะกมลา แฮร์ริสอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ซึ่งถือเป็นการกลับมาอย่างน่าตกตะลึงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ
บรรดาผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน กำลังเฉลิมฉลองหลังจากที่ Fox News ประกาศให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ที่งานสรุปผลการเลือกตั้งในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน (Photo by Jim WATSON / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า แม้ผลคะแนนในแต่ละรัฐจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่หลายฝ่ายประเมินแล้วว่า โดนัลด์ ทรัมป์ใกล้ปิดดีลทำเนียบขาวได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะกมลา แฮร์ริส ในรัฐสำคัญได้เกือบทั้งหมดจนเก็บคะแนนคณะเลือกตั้งทะลุ 270 เสียง
ฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) เป็นสื่อเจ้าแรกที่ประกาศให้โดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันพุธ หลังจากทราบผลการลงคะแนนของรัฐเพนซิลเวเนีย, จอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา และรัฐอื่นๆ ที่เหลือ โดยค่อนข้างเป็นที่แน่นอนว่าทรัมป์จะลอยลำในรัฐเหล่านั้นและคว้าคะแนนคณะเลือกตั้งที่เหลือซึ่งเพียงพอกับการคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้
บรรดาผู้สนับสนุนที่เตรียมยินดีล่วงหน้า ต่างรอคอยให้ชายวัย 78 ปีกล่าวสุนทรพจน์ในงานสรุปผลการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในฟลอริดา ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนของแฮร์ริสต่างรู้สึกหดหู่ใจเมื่อเธอเลือกจะไม่กล่าวสุนทรพจน์ใดๆตามกำหนด เหมือนยอมรับความพ่ายแพ้
"คืนนี้คุณจะไม่ได้ยินคำใดจากรองประธานาธิบดี แต่พรุ่งนี้คุณจะได้ฟังจากเธอ" ซีดริก ริชมอนด์ รองประธานร่วมฝ่ายหาเสียงของแฮร์ริส กล่าวในงานสรุปผลการเลือกตั้งที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ดในวอชิงตัน
นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันของทรัมป์ยังสามารถยึดครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้อีกครั้ง โดยพลิกกลับมาชนะพรรคเดโมแครตได้อย่างฉิวเฉียด
ชัยชนะของทรัมป์อาจสร้างความหวาดหวั่นไปทั่วโลก เนื่องจากพันธมิตรของสหรัฐฯ ในยุโรปและเอเชียหวั่นเกรงว่านโยบายชาตินิยมของเขาจะกลับมาเขย่าเสถียรภาพโลกอีกครั้ง และเกรงว่าเขาจะเอนเอียงหาผู้นำเผด็จการอย่างวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับพุ่งสูงขึ้นหลังทราบกระแสการกลับมาของทรัมป์ เช่นเดียวกับมูลค่าของบิตคอยน์ที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อขายต่างเดิมพันว่าทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
บรรยากาศในงานสรุปผลการเลือกตั้งของแฮร์ริสที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ดซึ่งเป็นสถานศึกษาเก่าของเธอและเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับคนผิวสีมาโดยตลอด อบอวลไปด้วยความหงอยเหงา
ความตื่นเต้นเริ่มจางลงและผู้คนเริ่มทยอยออกจากงาน ในขณะที่บางคนจ้องไปที่หน้าจอที่กำลังรายงานข่าวชัยชนะของทรัมป์
ในทางกลับกัน การเฉลิมฉลองกลับเข้มข้นขึ้นที่รีสอร์ตมาร์อาลาโกของทรัมป์ในฟลอริดา รวมทั้งงานเลี้ยงฉลองที่อยู่ใกล้เคียง
อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อเทคโนโลยีที่สนับสนุนทรัมป์และเสนอตัวเป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการประสิทธิภาพของรัฐบาลภายใต้การนำของเขา โพสต์ภาพของตัวเองกับทรัมป์ที่มาร์อาลาโก เพื่อประกาศชัยชนะ
จากการสำรวจความคิดเห็นในช่วงหลายสัปดาห์ พบว่าแฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนสูสีกันมาก แต่ท้ายที่สุดคะแนนที่ออกมาดูเหมือนจะพุ่งไปทางฝั่งทรัมป์อย่างรวดเร็ว และจะทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในช่วงเวลาที่เข้ารับตำแหน่ง, เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ก่ออาชญากรรม และเป็นคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน
แฮร์ริส วัย 60 ปี ตั้งเป้าที่จะเป็นคนผิวดำคนที่สองและเป็นคนเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่กลับต้องผิดหวังในท้ายที่สุด เมื่อไม่อาจโน้มน้าวชาวอเมริกันส่วนใหญ่ได้
การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดทั่วโลก รวมถึงในเขตสงครามของตะวันออกกลางและยูเครนซึ่งทรัมป์เคยลั่นวาจาไว้ว่าเขาจะตัดความช่วยเหลือต่อรัฐบาลเคียฟในการสู้รบกับรัสเซีย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ