กมลา แฮร์ริสและโดนัลด์ ทรัมป์ดวลกันข้ามรัฐชี้ขาดในช่วงสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ตึงเครียดที่สุดในยุคใหม่ โดยพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทางการเมืองจากแนวบู๊ล้างผลาญของพรรครีพับลิกัน
โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน (ซ้าย) และกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (Photo by KAMIL KRZACZYNSKI and David Becker / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า แคมเปญหาเสียงสู่การเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯเข้าสู่โค้งสุดท้ายในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก่อนถึงจุดสุดยอดของวันเลือกตั้งในวันอังคาร ขณะที่ประชาชน 75 ล้านคนได้ลงคะแนนเสียงล่วงหน้าไปแล้ว
นานาประเทศทั่วโลกอาจต้องเผชิญกับการรอคอยอันน่าตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่าแฮร์ริสจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ หรือทรัมป์จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งหลังความพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดน ในปี 2563
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คู่แข่งทั้งสองเกือบได้เผชิญหน้าจากการใช้ลานจอดเครื่องบินร่วมกันที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยรองประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางมากับเครื่องบินแอร์ฟอร์ซทู ขณะที่ทรัมป์เดินทางมาด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
ทั้งคู่ได้จัดการชุมนุมที่รัฐดังกล่าว ขณะที่แฮร์ริสยังได้ปราศรัยต่อผู้สนับสนุนในจอร์เจียซึ่งเป็นอีกหนึ่งในเจ็ดรัฐสำคัญที่ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะในการแข่งขันระดับประเทศที่สูสีกันมาก ส่วนทรัมป์ได้กล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนในเวอร์จิเนียอีกด้วย
การกล่าวปราศรัยที่มีเดิมพันสูงต่อหน้าผู้คนหลายพันคนในแต่ละจุดยังคงดำเนินต่อไปในวันอาทิตย์ โดยแฮร์ริสจะจัดงานหลายงานในรัฐสำคัญอย่างมิชิแกน และทรัมป์จะชุมนุมกับผู้สนับสนุนในจอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย
การสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าทรัมป์ วัย 78 ปี และแฮร์ริส วัย 60 ปี อยู่ในขอบเขตความผิดพลาดที่ต่างกันในแต่ละรัฐสำคัญ
อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีสำหรับแฮร์ริส เมื่อหนึ่งในผู้ทำโพลที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในประเทศได้เปิดเผยผลสำรวจใหม่ในหนังสือพิมพ์ Des Moines Register ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำทรัมป์สามแต้มในไอโอวาซึ่งเป็นรัฐที่ทรัมป์เคยชนะได้อย่างง่ายดายทั้งในแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2559 ที่ประสบความสำเร็จ และอีกครั้งในความพ่ายแพ้อย่างหวุดหวิดในปี 2563
นอกจากนี้ เครื่องบินของแฮร์ริสได้เปลี่ยนเส้นทางอ้อมไปยังนิวยอร์ก เพื่อไปปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดในรายการตลกโทรทัศน์ใน 'Saturday Night Live'
สำหรับแฮร์ริส ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลักของเธอคือบรรดาผู้หญิงที่ไม่พอใจต่อการตัดสินของผู้พิพากษาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีทรัมป์ในขณะนั้นให้ดำรงตำแหน่งในศาลสูงเพื่อพลิกคำตัดสินคดี Roe v Wade ซึ่งเป็นการยุติสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการทำแท้งที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษ
"โดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่หยุดแค่นี้ เขาจะห้ามการทำแท้งทั่วประเทศ" แฮร์ริสกล่าวในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย
เธอพรรณนาถึงทรัมป์ว่า "มีความไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ ในตัวทรัมป์ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้น และแสวงหาอำนาจที่ไร้การควบคุม"
"ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เรามีโอกาสที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทุ่มเทความพยายามในการทำให้เราแตกแยกและหวาดกลัวซึ่งกันและกัน" แฮร์ริสกล่าว
ด้านการหาเสียงของทรัมป์ เขายังคงปลุกเร้าฐานเสียงฝ่ายขวา และยังคงใช้ถ้อยคำที่มืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเมืองเซเลม รัฐเวอร์จิเนีย เขาเริ่มปราศรัยโดยกล่าวว่า "วันนี้ผมมาที่นี่พร้อมกับข้อความแห่งความหวังสำหรับทุกคน"
แต่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น เขาก็กลับมาเหยียบย่ำช่วงเวลาแห่งความหวังดังกล่าวในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ด้วยการเรียกคู่ต่อสู้ของเขาว่า "ไอคิวต่ำ" และ "โง่" รวมทั้งกล่าวว่าแฮร์ริสจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยถามฝูงชนว่า "พวกคุณอยากจะตกงานและอาจจะเสียบ้านและเงินบำนาญด้วยหรือไม่"
ในช่วงต่อมา เขาใช้ถ้อยคำของฝ่ายขวาจัดโดยให้คำมั่นว่าจะ "รักษาความเป็นอเมริกันไว้เพื่อพลเมืองอเมริกัน"
ทรัมป์ทำงานอย่างหนักเพื่อดึงดูดฐานเสียงผู้ชาย โดยปรากฏตัวในพอดแคสต์กับนักศิลปะการต่อสู้ชื่อดัง, ใช้เวลาในร้านตัดผม และพบปะกับผู้ประกอบการด้านคริปโต ขณะที่แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนจากผู้หญิงเพิ่มขึ้น ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าผลการเลือกตั้งอาจเป็นการต่อสู้ระหว่างเพศ
มีความกังวลว่าเหตุวุ่นวายจะเกิดขึ้นอีกครั้งเหมือนสมัยไบเดน เมื่อทรัมป์ปฏิเสธที่จะบอกว่าเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้หรือไม่ ทำให้ธุรกิจต่างๆ ในเมืองหลวงของสหรัฐฯ เริ่มปิดหน้าร้าน เนื่องจากกระแสทางการเมืองเตือนว่า "สภาพแวดล้อมด้านความปลอดภัยไม่สามารถคาดเดาได้"
ทรัมป์กล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งในรัฐสำคัญอย่างเพนซิลเวเนียอยู่แล้ว เช่นเดียวกับที่เขาทำในปี 2563 ก่อนที่เขาจะพยายามพลิกผลการเลือกตั้งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งจุดสุดยอดคือการโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยผู้ติดตาม
ตารางงานที่อัดแน่นของสองผู้สมัครจะดำเนินต่อไปจนถึงวันจันทร์และจะสิ้นสุดลงด้วยการชุมนุมในช่วงดึก โดยทรัมป์จะสิ้นสุดแคมเปญของเขาในเมืองแกรนด์ ราปิดส์ รัฐมิชิแกน และแฮร์ริสจะจบการหาเสียงในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ