นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศจะอยู่ต่อ แม้ผลเลือกตั้งไม่เป็นไปตามคาด

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้ว่าการเดิมพันจัดการเลือกตั้งกะทันหันของเขาจะล้มเหลว โดยพรรครัฐบาลเดิมไม่สามารถคว้าเสียงข้างมากได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552

นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่สำนักงานใหญ่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม (Photo by Takashi Aoyama / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นประกาศจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้ผลการเลือกตั้งล่าสุดจะชี้ว่าโอกาสเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพเป็นไปได้ยากแล้ว

อิชิบะประกาศเลือกตั้งใหม่อย่างกะทันหันหลังเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม โดยหวังล้างไพ่ใหม่จากกระแสอื้อฉาวกองทุนลับของพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งปกครองญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2498

แต่ผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์แสดงให้เห็นว่าประชาชนญี่ปุ่นแสดงออกเป็นรูปธรรมว่าพรรครัฐบาลเริ่มเสื่อมความนิยมอย่างแท้จริงแล้ว

คาดการณ์ว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยจะได้รับที่นั่งเพียง 191 ที่นั่ง ลดลงจาก 259 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2564 และน้อยกว่า 233 ที่นั่งที่จำเป็นสำหรับการได้เสียงข้างมากในรัฐสภาที่มีทั้งหมด 465 ที่นั่ง

เมื่อรวมกับพรรคโคเมอิโตะซึ่งเป็นพันธมิตรและคาดว่าจะได้ที่นั่ง 24 ที่นั่ง ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลจะได้ที่นั่งในรัฐสภาเพียง 215 ที่นั่ง

อิชิบะ วัย 67 ปี ยืนกรานหลังทราบผลการเลือกตั้งเบื้องต้นว่าเขาจะอยู่ในสถานะนายกรัฐมนตรีต่อไป และจะไม่ปล่อยให้เกิด "สุญญากาศทางการเมือง" ในประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกแห่งนี้

เขากล่าวว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ "ความสงสัย, ความไม่ไว้วางใจ และความโกรธแค้นของประชาชน" หลังมีเรื่องอื้อฉาวในพรรคฯ จนอดีตนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะต้องจบเส้นทางผู้นำ

"ผมจะดำเนินการปฏิรูปพื้นฐานเกี่ยวกับประเด็นการเงินและการเมือง" อิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ภายหลังพ่ายแพ้ต่อความไว้วางใจของประชาชน ชินจิโร โคอิซูมิ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของพรรคเสรีประชาธิปไตย ได้ประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ขั้นตอนต่อไปที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ อิชิบะจะแสวงหาตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยคาดหวังว่าพรรคฝ่ายค้านที่ไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว อาจไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมของตนเองได้

อิชิบะซึ่งมีเวลา 30 วันในการจัดตั้งรัฐบาล กล่าวล่าสุดว่า เขายังไม่ได้พิจารณาจัดตั้งรัฐบาลผสมมากกว่าสองพรรคในตอนนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานในรัฐสภาที่ปัญหาของประเทศจะเดินหน้าได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น

เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย ตั้งแต่จำนวนประชากรที่ลดลงไปจนถึงสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่ตึงเครียด

ว่ากันว่าผู้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ พรรคประชาธิปไตย (ซีดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักและเป็นพรรคขนาดใหญ่อันดับสองในรัฐสภา เพราะอาจคว้าที่นั่งได้ถึง 148 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจาก 96 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อน

หากพิจารณาจากผลการเลือกตั้ง พรรคการเมืองอื่นๆก็ทำผลงานได้ดี โดยพรรคเรวะ ชินเซนกุมิ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็กและก่อตั้งโดยอดีตนักแสดง สามารถได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นสามเท่าเป็น 9 ที่นั่ง หลังจากให้คำมั่นว่าจะยกเลิกภาษีขายและเพิ่มเงินบำนาญ

ขณะที่พรรคอนุรักษนิยมแห่งญี่ปุ่นซึ่งก่อตั้งในปี 2566 และมีนโยบายต่อต้านผู้อพยพและยึดมั่นในประเพณี คว้าที่นั่งได้เป็นครั้งแรกจำนวน 3 ที่นั่ง

ในขณะเดียวกัน จำนวนสมาชิกรัฐสภาหญิงก็เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 73 คน แต่ก็ยังคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเพียงร้อยละ 16 เท่านั้น.