กองทัพจีนเริ่มการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใกล้เกาะไต้หวันในวันอังคาร เพื่อรักษาแรงกดดันต่อเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ หลังจากจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเรียกร้องให้ทหารเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม
ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน เดินผ่านกองทหารที่ฐานทัพเรือในเถาหยวน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม หลังการฝึกซ้อมรบของจีนไม่กี่วันก่อนหน้า (Photo by I-Hwa CHENG / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า กองทัพจีนเริ่มการซ้อมรบในช่องแคยไต้หวันอีกครั้ง หลังจากจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่ไปก่อนหน้านี้
สำนักงานความปลอดภัยทางทะเล (MSA) บนเกาะผิงถานทางตะวันออก ประกาศว่า "การยิงปืนใหญ่ด้วยกระสุนจริง" จะเกิดขึ้นในพื้นที่จำกัดใกล้กับแผ่นดินใหญ่ของจีน ซึ่งอยู่ห่างจากไต้หวันประมาณ 105 กิโลเมตร
สำนักงานฯ กล่าวว่า การยิงปืนจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะยิงเป็นเวลา 4 ชั่วโมงครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร
ทั้งนี้ ผิงถานเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่กับเกาะหลักของไต้หวัน ขณะที่สำนักงานฯไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในครั้งนี้
พรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศอ้างสิทธิ์ในไต้หวันว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตน และกล่าวว่าจะไม่สละการใช้กำลังเพื่อนำเกาะนี้มาอยู่ภายใต้การควบคุม
กระทรวงกลาโหมไต้หวันตอบสนองต่อการซ้อมรบดังกล่าวโดยระบุว่ากำลังติดตามกิจกรรมและเจตนาของกองทัพจีนอย่างใกล้ชิด
รัฐบาลไทเปกล่าวว่า การซ้อมรบดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีในการเสริมกำลังข่มขู่ร่วมกับพลวัตในช่องแคบไต้หวัน
นายกรัฐมนตรีโช จุงไท กล่าวถึงการซ้อมรบดังกล่าวว่าเป็น "ภัยคุกคามที่ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค"
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือรบของสหรัฐฯ และแคนาดาแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการตามปกติของสหรัฐฯ และพันธมิตร ที่มุ่งหมายเสริมสร้างสถานะอันปลอดภัยทางน้ำระหว่างประเทศ
แต่รัฐบาลปักกิ่งประณามการผ่านน่านน้ำดังกล่าวของเรือต่างชาติว่า เป็นตัวการขัดขวางสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบ
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม จีนส่งเครื่องบินทหาร, เรือรบ และเรือยามชายฝั่งจำนวนมากเป็นประวัติการณ์เพื่อปิดล้อมเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบที่ 4 ในรอบกว่า 2 ปีในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมระบุว่าเป็น "คำเตือนที่เด็ดขาดต่อการกระทำแบ่งแยกดินแดนของกองกำลังไต้หวัน"
ไต้หวันจึงสั่งรวมพลกองกำลังและยกระดับการเฝ้าระวังเกาะรอบนอก เพื่อตอบสนองต่อการซ้อมรบดังกล่าว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนแผ่นดินใหญ่ได้เพิ่มแรงกดดันทางการทหารต่อไต้หวัน โดยส่งเครื่องบินรบ, เครื่องบินทหาร และเรือรบจำนวนมากไปรอบๆ เกาะเกือบทุกวัน
ภายหลังการซ้อมรบ "Joint Sword-2024B" กองทัพจีนประกาศกร้าวว่าจะไม่ละทิ้งการใช้กำลังเพื่อยึดเกาะไต้หวันคืนมา และมีรายงานว่าในการเยือนกองพลทหารจรวดของกองทัพจีนภายหลังการซ้อมรบดังกล่าว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เรียกร้องให้กองทัพจีนเสริมความพร้อมในการทำสงคราม.