รัสเซียเมิน แม้เกาหลีใต้ประท้วงให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกทันที

เกาหลีใต้เรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบและวิจารณ์การตัดสินใจนำทหารเกาหลีเหนือหลายพันนายไปประจำการเพื่อสนับสนุนสงครามในยูเครน พร้อมเรียกร้องให้ถอนทหารเหล่านั้นออกทันที

คิม ฮง-กยูน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้ (ขวา) กำลังพูดคุยกับจอร์จี ซิโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโซล ที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงโซล เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม เพื่อประท้วงการนำทหารเกาหลีเหนือไปยังดินแดนรัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้ และเรียกร้องให้ถอนกำลังทหารเกาหลีเหนือเหล่านั้นออกทันที (Photo by Handout / South Korean Foreign Ministry / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า จากกรณีหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ได้ตรวจพบกองกำลังพิเศษของเกาหลีเหนือถูกเคลื่อนย้ายโดยเรือขนส่งของกองทัพเรือรัสเซีย ซึ่งยืนยันถึงการเริ่มต้นการมีส่วนร่วมทางทหารของเกาหลีเหนือในสงครามยูเครน ทำให้รัฐบาลโซลไม่อยู่เฉย และเรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบเพื่อประท้วงให้หยุดการกระทำดังกล่าว

หน่วยข่าวกรองของโซลกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ขณะนี้ทหารหน่วยรบพิเศษของเกาหลีเหนือราว 1,500 นายอยู่ในรัสเซียเพื่อปรับตัวและน่าจะมุ่งหน้าไปยังแนวรบของสงครามยูเครนในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือเป็นการส่งทหารไปประจำการในต่างประเทศครั้งแรกของรัฐบาลเปียงยาง

เกาหลีใต้อ้างมานานแล้วว่าเกาหลีเหนือซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์กำลังส่งอาวุธให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในยูเครน และรัฐบาลโซลแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการส่งทหารดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่คิม จองอึนและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินลงนามข้อตกลงทางทหารเมื่อเดือนมิถุนายน

คิม ฮง-กยูน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวกับจอร์จี ซิโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโซลว่า "เกาหลีใต้แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้ และขอเรียกร้องให้ถอนกำลังทหารเกาหลีเหนือออกทันที"

คิมระบุว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคง ไม่เพียงแต่ต่อเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนระหว่างประเทศด้วย

ทั้งเกาหลีเหนือและรัสเซียอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหประชาชาติหลายต่อหลายครั้ง ในกรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และกรณีดำเนินสงครามในยูเครน

รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวย้ำว่า ความร่วมมือทางทหารของทั้งสองประเทศเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

แต่เอกอัครราชทูตซิโนเวียฟกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด

เช่นเดียวกับดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลมอสโกที่กล่าวยืนยันว่าจะรักษาความร่วมมือกับเกาหลีเหนือต่อไป แต่ปฏิเสธที่จะชี้แจงว่ารัสเซียฝึกฝนและใช้กองกำลังเกาหลีเหนือเพื่อใช้ทำสงครามกับยูเครนหรือไม่

"เกาหลีเหนือเป็นเพื่อนบ้านและพันธมิตรที่ใกล้ชิดของเรา และเรามีสิทธิอธิปไตยในการพัฒนาความสัมพันธ์กันในทุกๆด้าน ซึ่งเรายืนยันจะพัฒนาความร่วมมือนี้ต่อไป" ดมิทรี เปสคอฟกล่าวกับนักข่าว

ขณะที่เลขาธิการนาโตกล่าวยืนยันว่า หากเกาหลีเหนือส่งทหารไปร่วมสงครามยูเครนจริง จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น

ช็อง ซ็อง-ชาง ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์คาบสมุทรเกาหลีของสถาบันเซจงในเกาหลีใต้กล่าวว่า การประท้วงของเกาหลีใต้ต่อรัสเซียจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารของรัฐบาลมอสโกกับคิม จองอึน

"คิม จองอึนอยากได้เทคโนโลยีทางทหาร ตั้งแต่ดาวเทียมติดตามไปจนถึงเรือดำน้ำ จึงยอมแลกเปลี่ยนด้วยการส่งทหารไปช่วยรัสเซียในยูเครน" เขากล่าว และเสริมว่า "ทหารเกาหลีเหนือน่าจะไปอยู่แนวหน้าของยูเครนในไม่ช้านี้ ซึ่งต้องดูต่อไปว่าทหารเหล่านั้นจะส่งผลกระทบมากเพียงใดในสงคราม"

เกาหลีใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก ต่อต้านคำเรียกร้องจากพันธมิตร รวมถึงสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการให้สนับสนุนอาวุธแก่ยูเครน โดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญที่กำหนดห้ามรัฐบาลโซลขายอาวุธเข้าไปในพื้นที่ขัดแย้งที่ยังมีการสู้รบ

อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ได้ขายรถถัง, ปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์, เครื่องบินโจมตี และเครื่องยิงจรวดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับโปแลนด์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของยูเครน และประธานาธิบดีของโปแลนด์ก็มีกำหนดการเยือนกรุงโซลในวันอังคารนี้.

เพิ่มเพื่อน