ทรัมป์ปราศรัยโจมตีผู้อพยพด้วยถ้อยคำที่ดูหมิ่นและชวนให้เข้าใจผิด

โดนัลด์ ทรัมป์นำเสนอภาพหายนะของประเทศที่ "ถูกยึดครอง" โดยกลุ่มอาชญากรชาวต่างชาติในการปราศรัยหาเสียงเมื่อวันศุกร์ โดยมุ่งเน้นภาพลักษณ์ที่อันตรายของบรรดาผู้อพยพ เพื่อให้ส่งผลกระทบทางอ้อมไปยังกมลา แฮร์ริส และพรรคเดโมแครต

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน กล่าวปราศรัยในการชุมนุมหาเสียงที่ Gaylord Rockies Resort & Convention Center ในเมืองออโรรา รัฐโคโลราโด เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม (Photo by Jason Connolly / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ปราศรัยหาเสียงครั้งล่าสุดในเมืองออโรรา รัฐโคโลราโด โดยมุ่งเน้นด้านลบของบรรดาผู้อพยพที่สร้างปัญหาสังคม และกำลังยึดครองประเทศในลักษณะกลุ่มอาชญากรชาวต่างชาติ

ในขณะที่การแข่งขันสู่ทำเนียบขาวเดินหน้าเข้าสู่โค้งสุดท้ายอย่างสูสี อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันรายนี้ได้ใช้วาทกรรมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการแบ่งแยก ทั้งด้านการกีดกันทางการค้าและการดำรงอยู่ของผู้อพยพต่างชาติ เพื่อเร่งเร้าให้ผู้สนับสนุนของเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวและชนชั้นแรงงานโกรธเคือง ด้วยการกล่าวโจมตีแบบบิดเบือน

ในการหาเสียง กมลา แฮร์ริส คู่แข่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต เคยกล่าวให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับพรรครีพับลิกันเพื่อส่งเสริมรัฐบาลที่เป็นหนึ่งเดียว แต่สำหรับทรัมป์ เขาได้กล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำที่สร้างความแตกแยกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยพูดเกินจริงเกี่ยวกับความตึงเครียดในท้องถิ่น และทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถิติและนโยบายการย้ายถิ่นฐาน

"ตอนนี้ประเทศของเราเป็นที่รู้จักทั่วโลกในชื่อ 'อเมริกาที่ถูกยึดครอง' โดยกองกำลังอาชญากรต่างชาติ" ทรัมป์กล่าวอย่างดุเดือดในระหว่างการปรากฏตัวนาน 80 นาทีที่เมืองออโรรา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ปัญหาการอพยพเกือบทั้งหมด

"แต่สำหรับทุกคนที่นี่ในโคโลราโดและทั่วประเทศของเรา ผมขอปฏิญาณและสาบานต่อพวกคุณว่า วันที่ 5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะเป็นวันปลดปล่อยในอเมริกา" เขากล่าวเสริม โดยมีโปสเตอร์ของผู้ต้องสงสัยในฐานะอาชญากรต่างชาติติดอยู่ข้างๆ

ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามอย่างหนักมาหลายปีเพื่อจัดการกับพรมแดนทางใต้ที่ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์ได้เพิ่มความกังวลด้วยการอ้างว่า 'การรุกราน' กำลังเกิดขึ้นโดยผู้อพยพซึ่งเขากล่าวว่าจะข่มขืนและฆ่าชาวอเมริกัน

เมืองออโรราถูกใช้เป็นฉากในวิดีโอไวรัลที่แสดงให้เห็นชาวละตินติดอาวุธอาละวาดไปทั่วอาคารอพาร์ตเมนต์ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเล่าขานที่ผิดๆ เกี่ยวกับเมืองที่ถูกผู้อพยพละตินอเมริกาข่มขู่และยึดครอง

และมีการกล่าวเท็จว่าแก๊งอาชญากรเวเนซุเอลาในรัฐโคโลราโดได้รับอนุญาตให้ยิงตำรวจและพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามพลเมืองอเมริกัน ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าการรุกรานจากศัตรูต่างชาติใดๆ

ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะจัดการกับแก๊งอาชญากรผู้อพยพโดยใช้พระราชบัญญัติศัตรูต่างด้าว ค.ศ. 1798 ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลกลางจับกุมและเนรเทศชาวต่างชาติที่เป็นของประเทศศัตรู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเนรเทศครั้งใหญ่ที่เขาตั้งชื่อว่า "ปฏิบัติการออโรรา"

อย่างไรก็ตาม สถิติข้อมูลทางการบ่งชี้ว่าอาชญากรรมรุนแรงซึ่งเพิ่มสูงขึ้นภายใต้การบริหารของทรัมป์ ปรับตัวลดลงทุกปีในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนดำรงตำแหน่ง

ในความเป็นจริงแล้ว ผู้อพยพนั้นก่ออาชญากรรมน้อยกว่าพลเมืองเจ้าของประเทศเสียอีก แม้ว่าจะมีการระบุชื่อผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติในคดีที่โด่งดังบางคดีเกี่ยวกับการโจมตีผู้หญิงและเด็กอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้พรรครีพับลิกันหยิบยกมาโจมตีรัฐบาล

การเผชิญหน้ากับประเด็นผู้อพยพผิดกฎหมายที่ชายแดนทางใต้ตอนนี้ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2020 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์

กลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย 'ProgressNow Colorado' ได้ออกมาโต้แย้งคำโกหกเหยียดเชื้อชาติของทรัมป์เกี่ยวกับออโรรา ในแถลงการณ์ที่เรียกการชุมนุมหาเสียงครั้งนี้ว่า 'ความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่สำหรับแคมเปญหาเสียงของรีพับลิกัน'

ด้านกมลา แฮร์ริสซึ่งกำลังหาเสียงในเมืองสก็อตส์เดล รัฐแอริโซนา ได้สร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับทรัมป์ เนื่องจากเธอผลักดันข้อความแห่งความสามัคคีและให้คำมั่นว่าจะจัดตั้ง 'สภาที่ปรึกษาแบบสองพรรค' และเสนอให้มีรัฐมนตรีจากพรรครีพับลิกันอยู่ในรัฐบาลของเธอ

เธอกล่าวว่า "ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในประเทศของเรามีอิทธิพลบางอย่างที่พยายามแบ่งแยกเราในฐานะชาวอเมริกัน และยุให้พวกเราหวาดระแวงกันเอง" และเสริมว่า "ดิฉันเขื่อว่าพวกเราทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันมากกว่าสิ่งที่แยกเราออกจากกัน"

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันสูสีเกินกว่าจะตัดสินได้ การสำรวจล่าสุดของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อวันศุกร์พบว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำเพียงเล็กน้อยใน 4 จาก 7 รัฐสมรภูมิ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อชัยชนะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

กรมตำรวจเมืองออโรราแจ้งต่อเอเอฟพีว่า กลุ่มอาชญากรในเมืองแห่งนี้มีเพียงแก๊งข้างถนนเวเนซุเอลาที่มีชื่อว่า ' Tren de Aragua' เท่านั้น ในขณะที่ไมค์ คอฟฟ์แมน นายกเทศมนตรีจากพรรครีพับลิกันเองยังเรียกคำกล่าวอ้างของทรัมป์ว่า "เกินจริงอย่างร้ายแรง"

ทรัมป์ยังขยายประเด็นอย่างสนุกปากในเรื่องราวสมมติที่ว่าผู้อพยพชาวเฮติในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ กำลังกินสัตว์เลี้ยงของพลเมืองอเมริกัน

ทรัมป์จะเดินทางไปยังรัฐเนวาดาเพื่อจัดการชุมนุมครั้งที่สองในเมืองรีโน ศูนย์กลางการพนันแห่งใหม่ ซึ่งเขาเคยกล่าวอ้างเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมืองแบบผิดๆและยั่วยุหลายประการ

รัฐเนวาดาซึ่งเป็นที่ตั้งของลาสเวกัส มีอุตสาหกรรมบริการขนาดใหญ่ซึ่งทรัมป์ให้ทำได้เปรียบด้วยการโฆษณานโยบาย "ไม่เก็บภาษีเงินทิป" อันทำให้ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม.