ยูเอ็นประณามอิสราเอลถล่มสำนักงานใหญ่ในเลบานอน บาดเจ็บ 2 คน และไล่ถล่มเบรุต ตายอีก 22 ราย

สหประชาชาติประณามอิสราเอลที่โจมตีสำนักงานใหญ่ของพวกเขาทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และโจมตีพื้นที่ใจกลางกรุงเบรุต จนมีผู้เสียชีวิต 22 รายและบาดเจ็บ 117 คน

เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนของเลบานอนกำลังตรวจสอบพื้นที่ที่เสียหายจากการถูกโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอลในเขตบาสตา ใจกลางกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม (Photo by Hassan FNEICH / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีหลายครั้งต่อสำนักงานใหญ่สหประชาชาติทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

ทั้งสหประชาชาติ, อิตาลี และไอร์แลนด์ซึ่งมีทหารอยู่ในภารกิจรักษาสันติภาพในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมประณามการโจมตีครั้งนี้ และกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

ถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดต่อภารกิจของสหประชาชาติในเลบานอน แม้ว่าหลายฝ่ายได้เรียกร้องให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอิสราเอลไม่สนใจ

UNIFIL หรือกองกำลังชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในเลบานอน มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพประมาณ 10,000 นายประจำการทางตอนใต้ของประเทศ โดยองค์กรได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮิซบุลเลาะห์มาตลอด

"เช้านี้ เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ 2 นายได้รับบาดเจ็บ หลังจากรถถัง Merkava ของกองทัพอิสราเอลยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่หอสังเกตการณ์ที่สำนักงานใหญ่ของ UNIFIL ในเมืองนากูรา"

"เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ 2 นายไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล" หน่วยงานดังกล่าวระบุ และเสริมว่าทั้ง 2 นายเป็นชาวอินโดนีเซีย

รัฐมนตรีกลาโหมของอิตาลีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งกำลังทหารให้กับ UNIFIL มากที่สุดร่วมกับอินโดนีเซีย กล่าวถึงการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และจะทำการประท้วงต่อเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำอิตาลี เพราะเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเจตนาและอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม

นายกรัฐมนตรีไซมอน แฮร์ริส ของไอร์แลนด์ซึ่งประเทศของเขามีทหารประมาณ 370 นายในหน่วยงานดังกล่าว กล่าวว่า "การโจมตีใดๆ ในบริเวณใกล้เจ้าหน้าที่หรือสถานที่ของ UNIFIL ถือเป็นการประมาทและต้องไม่เกิดขึ้นอีก"

ขณะที่เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำสหประชาชาติกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลวางตำแหน่งตนเองเหนือกฎหมายระหว่างประเทศ, เหนือการไม่ต้องรับโทษ และเหนือค่านิยมสันติภาพร่วมกันขององค์กร

ตามรายงานของ UNIFIL กองทัพอิสราเอลยังได้โจมตีจุดยุทธศาสตร์อีกจุดหนึ่งในเมืองราส อัล-นากูราทางตอนใต้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

UNIFIL กล่าวว่า อิสราเอลได้โจมตีทางเข้าหลุมหลบภัยที่เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพกำลังหลบภัยอยู่ และทำให้ยานพาหนะกับระบบสื่อสารได้รับความเสียหาย

คณะผู้แทนเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติยังกล่าวอีกว่า "มีผู้พบเห็นโดรนของกองทัพอิสราเอลบินอยู่ภายในตำแหน่งของสำนักงานหน่วยงานฯ และติดตามไปจนถึงทางเข้าหลุมหลบภัย"

คณะผู้แทนฯยังระบุอีกว่า "สำนักงานใหญ่ของ UNIFIL และจุดยุทธศาสตร์ใกล้เคียงถูกโจมตีซ้ำๆหลายครั้ง"

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา UNIFIL เสริมว่า "ทหารอิสราเอลเจตนายิงกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่อาคารและปิดใช้งานกล้องติดตามรอบจุดยุทธศาสตร์ พวกเขายังยิงใส่พื้นที่ที่จัดการประชุมไตรภาคีเป็นประจำก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งขึ้น โดยทำให้อุปกรณ์ไฟและสถานีถ่ายทอดสัญญาณได้รับความเสียหาย"

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว UNIFIL กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลได้ขอให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพย้ายจุดยุทธศาสตร์บางแห่งก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในเลบานอน แต่หน่วยงานฯปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว ซึ่งประธานาธิบดีไมเคิล ฮิกกินส์ ของไอร์แลนด์ เรียกว่าเป็น "การดูหมิ่นสถาบันที่สำคัญระดับโลก"

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา UNIFIL เตือนว่าปฏิบัติการของอิสราเอลใกล้จุดยุทธศาสตร์แห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของมารูน อัล-ราส อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ โดยมารูน อัล-ราสนั้นอยู่ห่างจากนากูราไปทางตะวันออกเพียงแค่ 27 กิโลเมตร

อิสราเอลโจมตีจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อว่าเป็นของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 ราย และทำให้ผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

กลุ่มฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่ากำลังดำเนินการโจมตีตอบโต้อิสราเอลข้ามพรมแดนทางตอนเหนือ และตั้งกองกำลังไว้คอยยิงสกัดใส่ทหารอิสราเอลที่พยายามรุกคืบเข้ามาในพื้นที่

ก่อนหน้านี้ฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่าได้ทำลายรถถังของอิสราเอลที่กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองราส อัล-นากูรา และได้ยิงจรวดใส่ทหารอิสราเอลซึ่งพยายามนำตัวทหารที่บาดเจ็บกลับไป

กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านยังกล่าวอีกว่าได้ยิงจรวดใส่ทหารอิสราเอลในพื้นที่ของเลบานอนอีกแห่งตามแนวชายแดน คือ เมืองไมส์ อัล-จาบัล และได้ยิงจรวดใส่หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล รวมถึงพื้นที่หนึ่งทางตอนเหนือของเมืองไฮฟา

ทั้งนี้ UNIFIL ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 เพื่อติดตามการถอนกำลังของกองทัพอิสราเอล หลังจากที่พวกเขารุกรานเลบานอนเพื่อตอบโต้การโจมตีของชาวปาเลสไตน์

UNIFIL ได้รับการสนับสนุนจากมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 หลังจากที่ฮิซบุลเลาะห์และอิสราเอลทำสงครามกันในปี 2006 และเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของ UNIFIL ได้รับมอบหมายให้ติดตามการหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่าย

ล่าสุด เลบานอนเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 22 รายและบาดเจ็บ 117 คนจากการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นใจกลางกรุงเบรุต โดยมีเป้าหมายเพื่อสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ฮิซบุลเลาะห์อยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วยหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน